การทำเครื่องปั้นดินเผาสทิงหม้อ ม.4 ต.สทิงหม้อ อ.เมือง จ.สงขลา
หัวข้อเรื่อง: การทำเครื่องปั้นดินเผาสทิงหม้อ หมู่ที่ 4 ตำบลสทิงหม้อ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
ชื่อผู้เขียน: สุภาคย์ อินทองคง
สรุปผลการวิจัย อภิปรายและข้อเสนอแนะ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาสภาพการทำเครื่องปั้นดินเผา ที่มีผบต่อภาวะเศรษฐกิจและสังคม เอกลักษณ์ของเครื่องปั้น ปัญหาอุปสรรคในการทำ แนวทางแก้ไขและการอนุรักษ์ส่งเสริมและเพื่อแสวงหาคุณค่าทางวัฒนธรรม ซึ่งเกี่ยวข้องอยู่กับการทำเครื่องปั้นดินเผาของชาวบ้านสทิงหม้อ ตำบลสทิงหม้อ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
การวิจัยครั้งนี้ใช้วิธีวิจัยแบบสำรวจเก็บข้อมูลจากภาคสนามเป็นหลัก โดยเก็บทั้งในบริเวณบ้านสทิงหม้อและบริเวณสำคัญที่มั่นใจและคาดคะเนว่ามีส่วนสัมพันธ์กับบ้านสทิงหม้อ โดยยึดเอาเส้นทางคมนาคมทางน้ำเป็นสำคัญ ทั้งด้านฝั่งทะเลด้านตะวันออก (อ่าวไทย) ฝั่งทะเลสาบสงขลาและฝั่งทะเลด้านตะวันตก (ทะเลอันดามัน) ใน 12 จังหวัดภาคใต้ คือ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สูตล ตรัง ภูเก็ตและพังงา โดยสำรวจหมู่บ้านในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวทั้งสิ้น 15 หมู่บ้าน และสำรวจร้านค้าเครื่องปั้นในเมืองใหญ่ๆ ของภาคได้ทุกเมือง โดยการใช้แบบสอบถามและเก็บรวบรวมชิ้นส่วนเครื่องปั้นสำคัญที่สำรวจพบ และเก็บข้อมูลเอกสารเท่าที่แสวงหาได้ประกอบสรุปผลการวิจัยเป็นประเด็นได้ดังต่อไปนี้
1. สภาพการทำเครื่องปั้นดินเผาของบ้านสทิงหม้อ ในอดีตกับปัจจุบันแตกต่างกันทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ กล่าวคือ ในอดีตเมื่อประมาณ 80-90 ปีล่วงมาแล้ว มีผู้ประกอบการ 40-50 ครอบครัว แต่ในปัจจุบันเหลือเพียง 9 ครอบครัว จำนวนผู้มีความรู้ ความชำนาญจำนวนเตาเผารายได้ที่ส่งผลต่อการอดออมและผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของชุมชนในอดีตมีปริมาณสูงกว่าในปัจจุบัน และคุณภาพของเครื่องปั้นในเชิงศิลปในอดีตก็สูงกว่าปัจจุบัน
2. ผลสืบเนื่องทางเศรษฐกิจและสังคม ในทางบวกอันเกิดจากการทำเครื่องปั้นดินเผาที่มีต่อชาวสทิงหม้อ สรุปได้ดังนี้
2.1 การใช้แรงงาน มีการใช้แรงงานอย่างทั่วถึง ถ้าการประกอบการดำเนินไปด้วยดีจะไม่มีผู้ว่างงาน
2.2 การแบ่งงาน มีการแบ่งงานกันรับผิดชอบระหว่างเพศชาย หญิง ตามลักษณะของหน้าที่ คือ หญิงปั้น-ชายเผา
2.3 รายได้ มีการขึ้นลงตามความต้องการของตลาดผู้ใช้ เมื่อพิจารณาจุดกึ่งกลางของการขึ้นลงสังเกตได้ว่า ผู้ประกอบการมีรายได้พอแก่การดำรงชีพโดยไม่ต้องประกอบอาชีพอื่น
2.4 ความเป็นเมือง ผลจากการเติบโตของกิจการทำเครื่องปั้นในช่วงระยะหนึ่งในอดีต ก้อให้เกิดชุมชนที่มีการตั้งถิ่นฐานหนาแน่นคล้ายกับจะเป็นชุมชนเมือง
2.5 ความสัมพันธ์ทางสังคม จากลักษณะของอาชีพมีส่วนในการเสริมสร้างสัมพันธภาพอันดีระหว่างสามี-ภรรยา และเป็นผลดีต่อการให้การอบรมบ่มนิสัยแก่บุตร-ธิดาอีกด้วย
2.6 สุขภาพอนามัย ลักษณะของอาชีพมีส่วนในการเสริมสร้างพลานามัยไปโดยอัตโนมัติ
2.7 การปกครอง การไม่ว่างงาน การมีรายได้พอประมาณ การมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันระหว่างหัวหน้าครอบครัว การมีโอกาสให้การอบรมลูกๆ อย่างใกล้ชิด ส่งผลดีต่อการปกครองท้องที่ได้เป็นอย่างดี
3. กรรมวิธีอุปกรณ์เครื่องมือ และเทคนิคในการผลิตเครื่องปั้น ยังอยู่ในรูปแบบดั้งเดิม มีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงน้อยมาก การเตรียมดิน คือ การนวดดิน ผสมดินก่อนนำมาปั้นรูป ใช้แรงงานคนทั้งหมด อุปกรณ์เครื่องมือมีจอบ เสียม เป็นต้น การผสมส่วนก็ใช้วิธีประมาณการหรือใช้สายตาคาดคะเนเอาเอง การปั้นรูปขึ้นรูปกระทำโดยใช้แป้นหมุนชนิดมือหมุนทั้งหมด ไม่มีการขึ้นรูปโดยวิธีอื่น การตบแต่งรูปทรงและลวดลายหลังจากขึ้นรูปแล้วมีไม่มากนัก มีการขัดผิว ทำก้น ตีลาย ขีดลาย และฉลุลาย การเผาใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงทั้งหมด การกำหนดอุณหภูมิใช้วิธีการสังเกตสีของเครื่องปั้นและสีของปล่องไฟ อาศัยประสบการณ์ความชำนาญของผู้เผาเป็นหลัก จึงจะได้ผลดี ในอดีตไม่มีร่องรอยการเผาเคลือบ ในปัจจุบันมีการทดลองเผาบ้าง แต่ไมได้ผลเพราะขาดประสบการณ์ทางเทคนิคและทุนดำเนินการ เตาเผาด้านปริมาณในอดีตมีจำนวนมากกว่าปัจจุบัน ด้านขนาดมี 2 ขนาดคือ ขนาดกลางและขนาดเล็ก ด้านลักษณะหรือชนิดมี 2 ชนิด คือ เตากลมหรือเตายืน และเตากูบและเตานอน ความสามารถในการใช้งานของเตา ใช้สำหรับเผาดิบอย่างเดียว
4. เอกลักษณ์ของเครื่องปั้นบ้านสทิงหม้อ เอกลักษณ์ทั่วไปที่กำหนดได้ มีดังนี้
4.1 เนื้อดิน เนื้อดินอันเป็นตัวของผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด จะมีสีและความละเอียดต่างจากเครื่องปั้นแหล่งสำคัญ คือ ปากเกร็ด นนทบุรี คือ มีเนื้อสีอ่อนกว่าและหยาบกว่า
4.2 ลักษณะรูปแบบ ลักษณะรูปแบบที่เด่นเป็นเอกลักษณ์ของตนเองมี 3 ชนิด คือ หม้อหุงต้ม หม้อสวดหรือสวดและเพล้ง
4.3 สีผิว สีผิวของผลิตภัณฑ์จะเป็นสีแดงเรื่อคล้ายสีหมากสุกเข้มกว่าสีของเครื่องปั้น ซึ่งผลิตจากซอยโรงอ่าง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี แต่อ่อนกว่าผลิตจากปากเกร็ด นนทบุรี
4.4 ลวดลาย มีทั้งลายที่เป็นของตนเอง และรับเข้ามาดัดแปลงเลียนแบบลวดลายที่มั่นใจได้ว่าเป็นของตนเอง ได้แก่ ลายก้านมะพร้าว ลายดอกจิก ลายดอกพิกุล ลายคิ้วนาง และลายลูกคลื่น ลายที่รับเข้ามาและดัดแปลงเลียนแบบมีลายท่าแนะ ลายลูกแก้ว เป็นต้น
5. ปัญหาอุปสรรคในการประกอบการ ปัจจัยสำคัญที่เข้ามามีส่วนทำให้การผลิตเครื่องปั้นดินสทิงหม้อลดน้อยลงนั้น มีทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน ปัจจัยภายนอกมีการกระจายของสิ่งประดิษฐ์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ การขาดการเอาใจใส่ของผู้เกี่ยวข้องและปัญหาโจรสลัด ซึ่งคอยบุกปล้นสะดมเมื่อนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายต่างเมือง ปัจจัยภายในมีการขาดผู้ช่วยเหลือแรงงาน ราคาผลิตภัณฑ์ตกต่ำ เพราะผลกระทบจากปัจจัยภายนอก ขาดพาหนะขนส่ง และความชราภาพของผู้ประกอบการเอง ปัญหาอุปสรรคที่ผู้ประกอบการในปัจจุบันประสบอยู่ แยกได้เป็น 3 ประการ คือ ปัญหาการผลิต การจำหน่าย และการรักษาเอกลักษณ์
5.1 ปัญหาด้านการผลิต ได้แก่ ปัญหาเกี่ยวกับวัตถุดิบ ช่างฝีมือ การสร้างแบบ การปั้นหรือการขึ้นรูป การเผาและแรงจูงใจ
5.1.1 วัตถุดิบ (ดินเหนียวและทราย) แหล่งดินและทรายอยู่ห่างไกลจากหมู่บ้าน มีความไม่สะดวกต่อการขนส่ง เพราะขาดพาหนะเป็นของตนเองและขาดความรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติของวัตถุดิบ
5.1.2 ช่างฝีมือ มีช่างฝีมือเหลือน้อยจำนวนไม่เกิน 20 คน และใช้แรงงานอยู่จริงไม่เกิน 9 คน ช่างเผามีไม่เกิน 10 คน ทั้งหมดอยู่ในหมวดอายุ 50-75 ปีโดยเฉลี่ย การถ่ายทอดความรู้นั้นมีน้อย อีก10-20 ปีข้างหน้าคงจะจบลงเพราะขาดการสืบต่อ และช่างฝีมือทั้งหมดยังขาดความรู้ในเทคนิค วิธีการขั้นพื้นฐานที่ควรรู้
5.1.3 การสร้างแบบ ขาดแคลนความคิดในการสร้างแบบที่ดีของผลิตภัณฑ์ เพราะไม่มีการศึกษาสั่งสมผลงานของตนที่เคยทำมาในอดีต และขาดความรู้ความเข้าใจในการแสวงหา
5.1.4 การปั้นหรือการขึ้นรูป ช่างปั้นส่วนใหญ่มีความรู้ ความชำนาญในการปั้นภาชนะแบบดั้งเดิม ผู้ที่สามารถฝึกฝนปั้นภาชนะแบบใหม่ๆ ได้มีเพียงคนเดียว คือ นางพร้อม สังฆะโร เทคนิคในการขึ้นรูปอาศัยแป้นหมุนโดยใช้มือหมุน ขาดความเที่ยงตรงในแรงเหวี่ยง จึงทำให้ผลิตภัณฑ์มีขนาดไม่ได้มาตรฐานและผลิตได้ช้า
5.1.5 การเผา ช่างยังขาดความรู้พื้นฐานและเทคนิคที่ดีกว่า ขาดอุปกรณ์เครื่องมือที่มีคุณภาพดี ทุกอย่างยังอยู่ในสภาพดั้งเดิม
5.1.6 แรงจูงใจ ขาดแรงจูงใจจากผู้เกี่ยวข้องทางบ้านเมืองและรายได้ลดลง เกิดความท้อแท้ที่จะประกอบการต่อไป
5.2 ปัญหาด้านการจำหน่าย ได้แก่ปัญหาเกี่ยวกับตลาดหรือความต้องการของผู้ใช้คุณภาพและทุนในการขยายกิจการ
5.2.1 ตลาดหรือความต้องการของผู้ใช้ตลาดยังอยู่ในวงจำกัด ด้านพื้นที่จำกัดอยู่เฉพาะในภาคใต้บางส่วน ผลิตภัณฑ์แบบใหม่ๆ แพร่หลายเฉพาะในเขตเมือง ผลิตภัณฑ์แบบเดิมแพร่หลายเฉพาะในเขตชนบท
5.2.2 คุณภาพ ผลิตภัณฑ์ยังมีคุณภาพด้อยกว่าในหลายด้าน เมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์จากแหล่งที่ได้รับการพัฒนาแล้ว เช่น ปากเกร็ด
5.2.3 ทุนในการขยายกิจการ มีการสะสมอดออมได้น้อยไม่เพียงพอต่อการลงทุนขยายกิจการ และยังขาดประสบการณ์และความรู้ในการทำกิจการให้ใหญ่โตกว้าง
5.3 ปัญหาด้านการรักษาเอกลักษณ์ ผู้ประกอบการขาดความรู้ ความเข้าใจและความภาคภูมิใจในเรื่องเอกลักษณ์ของผลงานของตน แต่มีความกระหายในอันที่จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงอันเกิดจากแรงผลักดันด้านเศรษฐกิจ
6. คุณค่าทางวัฒนธรรมและสังคม ผลจากการศึกษาพบว่า เขตการกระจายตัวของวัฒนธรรม คือ เครื่องปั้นสทิงหม้อได้กระจายไปตามฝั่งทะเลด้านตะวันออก (อ่าวไทย) และฝั่งทะเลสาบสงขลาเกือบทั่วบริเวณภาคใต้ ส่วนฝั่งทะเลด้านตะวันตก (ทะเลอันดามัน) ไม่พบร่องรอยในอดีต และพบว่ามีร่องรอยวัฒนธรรมเครื่องปั้นในอดีตที่ยาวนาน ทั้งที่เป็นของสทิงหม้อเองและที่กระจายมาจากแหล่งอื่น เช่น สุโขทัย อยุธยา และเวียดนาม จากร่องรอยของชิ้นส่วนและซากเตาเผาที่พบมีส่วนช่วยเสริมข้อสันนิษฐานเรื่องที่ตั้งของชุมชนโบราณชุมชนหนึ่งของภาคใต้ที่มีผู้ให้ความเห็นว่า น่าจะตั้งอยู่ที่ปากคลองสทิงหม้อได้โสดหนึ่ง และช่วยพิสูจน์ทฤษฎีที่ว่า มนุษย์สร้างวัฒนธรรมในรูปศิลปวัตถุขึ้นมาโดยอิงอาศัยอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี เพราะพบลายเครื่องปั้นที่คิดขึ้นจากสภาพแวดล้อม เช่น ลายลูกคลื่น ลายดอกพิกุล เป็นต้น
ด้านประโยชน์ใช้สอยหรือบทบาทของเครื่องปั้นพบว่า เครื่องปั้นสทิงหม้อมีบทบาทกว้างขวางเกี่ยวกับกิจกรรมในชีวิตประจำวันของชาวใต้ เช่น บทบาทในการอุปโภคในครัวเรือน คือ การหุงต้ม บทบาทในการรักษาสุขภาพอนามัย คือ การต้มยาสมุนไพร เป็นต้น บทบาทในการช่วยเสริมสร้างความสงบเยือกเย็นของจิตใจ คือ ใช้เป็นกระถางปลูกไม้ประดับ เป็นต้น และบทบาทที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ บทบาทในการช่วยเสริมสร้างเอกลักษณ์ อันเป็นคุณสมบัติที่ดีให้แก่เยาวชนสตรีของชาวไทยภาคใต้และผู้ใช้ทั่วไป คือ ใช้เป็นอุปกรณ์เครื่องมือในการเสริมสร้างนิสัยรักงานบ้านงานเรือนให้แก่เด็ก คือ เครื่องปั้นประเภทของเด็กเล่น ซึ่งเป็นเครื่องใช้ในครัว เช่น หม้อ กระทะ เตาหุงข้าว ต้มแกง และกระปุกออมสิน เป็นต้น
อภิปรายข้อเสนอแนะ
จากผลการศึกษามีข้อน่าสังเกตและข้อเสนอแนะดังต่อไปนี้
1. การแก้ไขปัญหาและอุปสรรคและการส่งเสริม เมื่อพิจารณาตามสภาพปัญหาอุปสรรคซึ่งผู้ประกอบการประสบอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นปัญหาเกี่ยวกับการผลิต การจำหน่ายและการรักษาเอกลักษณ์แล้ว แนวทางการแก้ไขปัญหาและอุปสรรค รวมถึงการส่งเสริมซึ่งอยู่ในวิสัยที่น่าจะกระทำได้ มีดังต่อไปนี้
1.1 การผลิต คือ ปัญหาอุปสรรคเกี่ยวกับวัตถุดิบ ช่างฝีมือ การสร้างแบบ การปั้น การเผา และแรงจูงใจ
1.1.1 วัตถุดิบ แม้ว่าแหล่งดินที่จะใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเครื่องปั้นมีมากเป็นร้อยไร่ แต่ยังไม่ปรากฏว่าทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมหรือหน่วยงานอื่นใดได้ทำการสำรวจแหล่งดินว่า แหล่งดินดังกล่าวจะมีปริมาณเท่าใดและอย่างไรแน่ ถ้ามุ่งจะส่งเสริมและพัฒนาให้หัตถกรรมประเภทนี้ของหมู่บ้านเจริญก้าวหน้า ควรได้มีการสำรวจแหล่งดินดังกล่าวและแหล่งใกล้เคียง เพื่อพบแหล่งดินแหล่งอื่นและประเภทอื่นได้บ้าง
1.1.2 ช่างฝีมือ ในเบื้องต้นควรหาโอกาสให้ช่างฝีมือที่มีอยู่แล้วในหมู่บ้านได้ใข้ความรู้ ความชำนาญของตน โดยการส่งเสริมให้มีการผลิตมากขึ้น และควรมีช่างฝีมือที่มีความรู้ ความชำนาญ ทั้งด้านทฤษฎีและภาคปฏิบัติมาแนะนำช่างฝีมือพื้นบ้าน พร้อมทั้งสร้างแรงจูงใจโดยการนำไปศึกษาดูงานที่ทันสมัยกว่า เพื่อให้ช่างฝีมือเหล่านั้นเกิดความมานะภูมิใจ พอใจในงานของตน และหาทางให้ผู้ชำนาญพิเศษในหมู่บ้านได้ถ่ายทอดความรู้ความชำนาญแก้คนรุ่นหลังด้วยอีกทางหนึ่ง อาจคัดเลือกตัวแทนของหมู่บ้านหรือเยาวชนในหมู่บ้านที่มีพื้นฐานความรู้สามัญพอควรเข้ารับการศึกษาอบรมเรื่องนี้โดยตรงก็น่าจะเป็นทางหนึ่งที่จะช่วยรักษาและพัฒนาหัตถกรรมประเภทนี้ของหมู่บ้านไว้ได้
1.1.3 การสร้างแบบ การออกแบบเป็นเรื่องค่อนข้างยาก เพราะนอกจากต้องอาศัยการศึกษาอบรมแล้ว ผู้จะออกแบบอะไรได้ดีนั้นจะต้องมีความสามารถพิเศษในตัว หรือพรสวรรค์อีกด้วย การแก้ปัญหาเรื่องนี้น่าจะเป็นหน้าที่ของฝ่ายส่งเสริมที่จะแสวงหาผู้มีความรู้ ความชำนาญในการออกแบบและสร้างแบบให้ แล้วมอบให้ผู้ผลิตรับเอาไปดำเนินการก็จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ทางหนึ่ง
1.1.4 การปั้นหรือการขึ้นรูป การปั้นเป็นกรรมวิธีในการผลิตที่ส่งผลทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพของเครื่องปั้น กรรมวิธีที่ใช้อยู่เดิม ถ้าความต้องการของตลาดเพิ่ม ก็จะมิอาจสนองความต้องการได้เต็มที่เพราะผลผลิตต่อเดือนยังต่ำ การใช้แป้นหมุนด้วยมือสร้างรูปเครื่องปั้นต้องอาศัยความชำนาญพิเศษ และต้องออกแรงหมุนถ้าขาดความชำนาญก็จะได้เครื่องปั้นไม่ดีพอ ควรได้หาทางปรับปรุงและสนับสนุนให้ได้ใช้วิธีปั้นรูปแบบอื่นบ้าง เช่น การปั้นรูปด้วยการหล่อแบบ เป็นต้น หรือไม่ก็ควรใช้เครื่องทุ่นแรงในการหมุนแป้น คือ ใช้มอเตอร์แทนแรงคน ผลผลิตที่ได้ก็จะเพิ่มขึ้นทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ คือความประณีตสวยงาม
1.1.5 การเผา การแก้ปัญหาเรื่องการเผา การกระทำในลักษณะเดียวกันกับการแก้ปัญหาเรื่องช่างฝีมือ คือ ให้ความรู้ในเรื่องการเผาแก่ผู้ประกอบการโดยการอบรมเชิงปฏิบัติการ ทั้งในการเผาดิบและเผาเคลือบ
1.1.6 แรงจูงใจ รายได้และแรงสนับสนุนจากภายนอกเป็นแรงจูงใจให้เกิดวิริยะอุตสาหะในการเพิ่มผลผลิต ทั้งสองประการมีความสำคัญ แต่ประการแรกสร้างได้ยากกว่าประการที่สอง ทั้งสองประการมีความสัมพันธ์กัน การให้การสนับสนุนทั้งในด้านการผลิตและด้านการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ให้ผลิตได้ปริมาณมากขึ้นและมีคุณภาพดี จะส่งผลให้ความต้องการของตลาดเพิ่มขึ้น เพราะมีผลดีเรื่องประโยชน์ใช้สอย เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะส่งผลออกมาเป็นการเพิ่มรายได้ของผู้ผลิต เมื่อมีรายได้ดีกำลังใจหรือขวัญในการทำงานก็จะมีมากขึ้นและจะดีขึ้น เมื่อกำลังใจหรือขวัญดีก็มีส่วนช่วยในการผลิตครั้งต่อไป ฉะนั้น แรงจูงใจด้านให้การสนับสนุนจะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ได้โสดหนึ่ง
1.2 การจำหน่าย คือปัญหาอุปสรรคเกี่ยวกับตลาด คุณภาพของเครื่องปั้นและทุนดำเนินการ
1.2.1 ตลาดหรือความต้องการของผู้ใช้ ถ้าแยกประชากรโดยอาศัยองค์ประกอบ คือ อาชีพหลัก ก็จะได้กลุ่มอาชีพชาวนา ชาวสวน หรือเกษตรกรรมมากกว่ากลุ่มอื่น แต่การใช้เครื่องปั้นประเภทหุงต้มในกลุ่มคนดังกล่าวก็กำลังมีแนวโน้มลดลง และการใช้เครื่องปั้นประเภทเครื่องประดับตกแต่งก็ยังมีความนิยมน้อย จึงควรให้ฝ่ายออกแบบได้คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยของชาวนา ชาวไร่ หรือเกษตรกร แล้วออกแบบให้สอดคล้องกับความต้องการของเขา ก็จะขยายตลาดออกไปในกลุ่มอาชีพดังกล่าวได้ด้วย แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรละการพิจารณากลุ่มอาชีพอื่น เพราะกลุ่มชาวนาชาวไร่เป็นต้นนั้นน แม้จะมีจำนวนมากก็จริงแต่ฐานะทางการเงินไม่ดีพอที่จะนำเงินมาใช้ซื้อของที่มีความจำเป็นต่อการครองชีพน้อย ฉะนั้น ฝ่ายออกแบบก็ต้องคำนึงถึงการหาทางเพิ่มหรือขยายตลาดในหมู่อาชีพพ่อค้า นักธุรกิจ ข้าราชการ นิสิต นักศึกษาด้วย นอกนั้นฝ่ายสนับสนุนอาจหาทางให้คนทั่วไปได้รู้จักกับเครื่องปั้นบ้านสทิงหม้อ เช่น การจัดนิทรรศการและเสนอข่าวสารทางสื่อมวลชนประเภทต่างๆ เป็นต้น
1.2.2 คุณภาพ คุณภาพของเครื่องปั้น คือ ความคงทนถาวรและประณีตสวยงามนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญสามประการ คือ วัตถุดิบ ได้แก่คุณสมบัติของเนื้อดินและส่วนผสม กรรมวิธี ได้แก่กระบวนการในการผลิต และทุน ได้แก่ ความมากน้อยของต้นทุนที่ใช้ในการลงทุน การจะให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพดีจึงต้องศึกษาค้นคว้าปรับปรุงแก้ไขทั้งในด้านวัตถุดิบและกระบวนการในการผลิต ข้อแก้ไขที่อาจทำได้คือ ให้ความรู้ ความเข้าใจในการผลิตแก่ผู้ประกอบการ ซึ่งจะสอดคล้องกับประเด็นที่ว่าด้วยกรรมวิธีการขึ้นรูป เป็นต้น
1.2.3 ทุนดำเนินการ การแก้ปัญหานี้ฝ่ายสนับสนุนมีทางที่จะช่วยแก้ไขได้ โดยวิธีการหาแหล่งทุนให้กู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำเพื่อผู้ประกอบการได้กู้ยืมมาลงทุนจัดซื้ออุปกรณ์ทันสมัยมาใช้ในการผลิตและให้ส่งคืนตามระบบผ่อนส่งระยะยาวหรือสั้นแล้วแต่จะตกลงกัน อีกทางหนึ่งหาวิธีการ ให้ผู้ประกอบการได้ร่วมกันลงทุนในการซื้ออุปกรณ์ เช่น เครื่องโม่ดิน เครื่องทุ่นแรงในการหมุนแป้น เป็นต้น แล้วแบ่งผลกำไรกัน ก็น่าจะเป็นแนวทางแก้ปัญหาเรื่องทุนทางใดทางหนึ่ง
1.3 การรักษาเอกลักษณ์ เรื่องของเอกลักษณ์เป็นเรื่องของคุณค่าทางวัฒนธรรมประจำกลุ่ม ประจำถิ่นหรือประเทศ เป็นเรื่องลึกซึ้งละเอียดอ่อน การที่จะมองเห็นเอกลักษณ์ของตนเอง และความสำคัญของเอกลักษณ์ที่มีต่อตนตลอดจนการสร้างเอกลักษณ์ใหม่ให้กับตนเองนั้น เป้นเรื่องที่ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง ประการหนึ่งที่เป็นรากฐานสำคัญ คือ การศึกษาให้รู้ให้เข้าใจว่า ตนเองมีอะไรเป็นเอกลักษณ์ สิ่งนั้นให้คุณค่าแก่ตนเองอย่างไรบ้าง และถ้าจะสร้างสิ่งใหม่ ควรกรองมาจากของเก่าและใหม่อย่างละเท่าใด ตามสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน การแก้ไขปัญหาอุปสรรคส่งเสริมด้านนี้ก็ควรใช้หลักการดังกล่าว คือ ศึกษาเอกลักษณ์ของเครื่องปั้นสทิงหม้อให้เข้าใจลึกซึ้งมากกว่านี้แล้วนำผลจากการศึกษานั้นมาเผยแพร่แก่ผู้ประกอบการและผุ้ที่สนใจทั่วไป แล้วขั้นตอนต่อไปก็ร่วมมือกันคิดค้นเอกลักษณ์เพิ่มเติมโดยยึดของเดิมที่ดีแล้วเป็นแกนกลาง ในทางปฏิบัติเพื่อการอนุรักษ์และสร้างสรรค์เอกลักษณ์ สิ่งที่ผู้ประกอบการหรือผู้เกี่ยวข้องควรทำ คือ การรวบรวมสะสมผลิตภัณฑ์ทุกประเภท ทุกชนิดของหมู่บ้านที่เคยผลิตและกำลังผลิตอยู่ในปัจจุบัน เพราะวัฒนธรรมระดับสูงที่เรียกว่า “อารยธรรม” นั้น เกิดจากการรวบรวมสะสมนี้เอง
2. สภาพการทำเครื่องปั้นในปัจจุบันอยู่ในลักษณะทรงกับทรุด อันสืบเนื่องมาจากสาเหตุหลายประการทั้งภายนอกและภายใน สาเหตุสำคัญประการหนึ่ง คือ แรงจูงใจให้เกิดความสนใจ ซึ่งลบเลือนไปจากจิตใจของเยาวชนผู้เป็นทายาทของหมู่บ้าน เมื่อผู้ประกอบการที่กำลังประกอบการอยู่ถอยหลังและเลิกร้างลง การประกอบการก็จะจบลงด้วย ซึ่งมิได้เกิดขึ้นเฉพาะกับหัตถกรรมทำเครื่องปั้นดินเผาเพียงอย่างเดียว แต่จะเกิดขึ้นกับการทำหัตถกรรมประเภทอื่นๆ ได้ด้วยเช่นกัน เช่น หัตถกรรมจักสาน การทอผ้า การทำย่านลิเภาและใบลำเจียก เป็นต้น จุดที่น่าจะได้รับการพิจารณาแก้ไขส่งเสริมก่อนอื่น จึงน่าจะได้แก่ การให้ความรู้ ความเข้าใจแก่เยาวชนผู้เป็นทายาทหรือผู้ที่สนใจ ทั้งทางตรงและทางอ้อมในทางปฏิบัติ ควรที่โรงเรียน วัด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องน่าจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือดำเนินการ
3. เกี่ยวกับกระบวนการในการผลิต และเทคนิคต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่ได้รับการพัฒนานั้น รัฐโดยกรม กองต่างๆ ที่เกี่ยวข้องน่าจะได้ให้ความสนใจแนะนำ ช่วยเหลือด้านต่างๆ ได้ เช่น การสำรวจวิเคราะห์แหล่งดินและคุณภาพดิน ให้ความรู้ด้านเทคนิคการปั้นและการเผา เป็นต้น
ใส่ความเห็น
Comments 0