ไวน์กระชายดำ เมืองภูเรือ

สมุนไพรเพื่อสุขภาพ “กระชายดำ” เมืองภูเรือ

เป็นที่รู้จักกันในปัจจุบันนี้ว่า อำเภอภูเรือนั้นเป็นอำเภอท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเลย  และของประเทศอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีความเหมาะสมและได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมาเที่ยวแต่ละปีจำนวนนับแสนคน ทำรายได้ให้แก่เกษตรกร อ.ภูเรือ มากมาย และสิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันดีก็คืออำเภอภูเรือนั้นเป็นแหล่งที่มีการปลูกไม้ดอกเมืองหนาวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ ซึ่งเป็นอาชีพหลักของเกษตรกรชาวอำเภอภูเรือ หมู่บ้านที่ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ โดยเฉพาะไม้ดอกเมืองหนาวก็คือ ที่หมู่บ้านหนองบง ต.หนองบัว อ.ภูเรือ โดยกลุ่มไม้ดอกไม้ประดับตำบลหนองบัว อ.เรือเรือ ซึ่งตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2541 นอกจากนั้นแม่บ้านได้แยกมาเป็นตั้งขึ้นอีกกลุ่มหนึ่ง คือแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรบ้านหนองบง โดยมีนางเตือนใจ โกมาสถิตย์ เป็นประธานกลุ่ม สถานที่ทำงานก็อยู่ติดกับโรงเรียนบ้านหนองบงนั้นเอง

นางเตือนใจ โกมาสถิตย์ ประธานกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์บ้านหนองบง กล่าวว่า พวกตนก็เป็นสมาชิกกลุ่มไม้ดอกไม้ประดับตำบลหนองบัว ซึ่งสมาชิกที่ปลูกไม้ดอกส่วนใหญ่ก็อยู่ที่บ้านหนองบง แต่ในปีนี้ราคาไม้ดอกไม่ค่อยดีเหมือนปีที่ผ่านมา จึงได้มาตั้งกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรขึ้น โดยมีสมาชิกขณะนี้ 10 กว่าคน ซึ่งมีตนเองเป็นประธานกลุ่ม โดยใช้สถานที่ซึ่งเดิมเป็นโรงสีข้าวปรับปรุงมาเป็นโรงงานในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร 3-4 ปี ที่ผ่านมา ในพื้นที่ของอำเภอภูเรือ ด่านซ้าย นาแห้ว มีการนำสมุนไพรกระชายดำมาปลูกกันมาก ราคาก็ดี และยังมีการนำกระชายดำมาทำการแปรรูปออกมาหลายชนิดเพื่อจำหน่าย ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคกันมาก

ขนาดที่ยังเป็นหัวราคาก็แพงราคาดี แปรรูปออกมาก็ราคาดี และรัฐบาลก็ได้เปิดโอกาสให้เกษตรกรสามารถทำการผลิตสุราท้องถิ่นจำหน่ายเองได้ โดยเฉพาะในเรื่องของการผลิตไวน์ ซึ่งจังหวัดเลยเองก็เริ่มมีกลุ่ม ต่างๆ ขออนุญาตในการผลิตไวน์ ด้วยการนำเอาสมุนไพรกระชายดำมาทำการผลิตเป็นไวน์กระชายดำ ซึ่งก็เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคและท้องตลาดในขณะนี้มาก กลุ่มของตนจึงมีความสนใจในเรื่องนี้มาก

ดังนั้น ในต้นปี 2545 ทางสมาชิกกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรบ้านหนองบง จึงได้มีมติในการที่จะทำการผลิตไวน์กระชายดำออกจำหน่ายบ้าง ด้วยการลงทุนครั้งแรกคนละ 5,000 บาทแต่ก็ไม่พอ ในขณะนี้เราลงทุนไปแล้วประมาณ 4 แสนบาท แต่ก็สามารถขายได้แล้วกว่าแสนบาท และยังมีลูกค้าเข้ามาตลอดเวลา แต่เราจะไม่ทำไวน์กระชายดำอย่างเดียวเราจะผลิตอย่างอื่นด้วย จึงได้มีการรวมทุนเบื้องต้นจากสมาชิกได้จำนวนหนึ่ง แล้วมาปรับปรุงโรงสีเก่าที่อยู่ข้างบ้านทำเป็นโรงงาน และได้จัดการซื้ออุปกรณ์ในการผลิตไวน์ จากนั้นก็ไปดูการผลิตไวน์ของกลุ่มต่างๆ ที่ผลิตอยู่และทำการศึกษาสูตรในการผลิตไวน์ โดยมีความรู้ในเรื่องของการผลิตไวน์พอสมควร มาเป็นประธานที่ปรึกษา คอยแนะนำให้การปรึกษาในการผลิตไวน์ให้ได้คุณภาพ

ปัจจุบันเราลงทุนในการจัดซื้ออุปกรณ์ในการผลิต และวัตถุดิบเพื่อนำมาผลิตไม่เฉพาะกระชายดำเท่านั้น ที่เรานำมาทำเป็นไวน์เรายังได้นำเอาลูกหมากเม้า ซึ่งเป็นลูกไม้ที่มีรสอร่อยมาก ลูกมะขามป้อม ข้าวเหนียวดำ มาทำการผลิตเป็นไวน์ และเหล้าสาโทที่มีดีกรีต่ำ ที่เราผลิตออกจำหน่ายในขณะนี้ก็จะมีไวน์ที่ทำจากสมุนไพรกระชายดำ ไวน์ลูกหมากเม้า ซึ่งเป็นผลไม้ป่าลูกเล็กๆ เป็นพวงคล้ายพวงองุ่น เมื่อลูกแก่จัดจะเป็นสีม่วงคล้ำมีรสหวาน

สำหรับขั้นตอนในการผลิตของเรา เราจะเน้นในเรื่องของความสะอาดเป็นหลัก แม้เครื่องไม้เครื่องมือเราจะไม่เหมือนกับโรงงานที่เขามีทุนมาก ขั้นตอนในการผลิตไวน์ ไม่ว่าจะเป็นกระชายดำลูกหมากเม้าหรือไวน์มะขามป้อมนั้นจะเหมือนกัน ที่เราทำอยู่นี้อย่างเช่น คือ นำกระชายดำมาหั่นเป็นแว่นๆ แล้วเอาไปตากแดดให้แห้ง จากนั้นก็นำมาบดให้ละเอียด แล้วนำมาผสมกันเพื่อทำการหมักคือ กระชายดำที่บดละเอียดแล้ว 1 ก.ก.ต่อน้ำสะอาด 20 ลิตร น้ำตาลทรายขาว 4 ก.ก. ยีสสด 1 ลิตร แล้วนำมาผสมคนให้เข้ากันเก็บไว้หนึ่งคืนใส่โอ่งมังกรแล้วปิดฝา สำหรับฝานั้นต้องมีช่องระบายอากาศไว้ด้วย โดยบ่มไว้ประมาณ 3 ถึง 6 เดือน เมื่อได้ตามที่กำหนดแล้วก็นำมากรองจนไม่มีตะกอนจากนั้นก็ทำการบรรจุขวดเพื่อออกจำหน่าย ไวน์มะขามป้อมหรือไวน์หมากเม้าก็ทำเช่นกัน

การทำเหล้าสาโทข้าวเหนียวดำ อัตราส่วน ข้าว 3 ก.ก.ต่อแป้งเหล้า 1 ลูก วิธีทำเอาข้าวแช่ไว้หนึ่งคืน จากนั้นก็เอามานึ่งให้สุกแล้วเอามาผึ่งให้แห้ง จากนั้นก็เอามาเคล้าให้เข้ากันเอาใส่โอ่งหมักไว้ประมาณ 1 อาทิตย์ พอเป็นน้ำก็เอาน้ำผสมจากนั้นเอามาต้มอุณหภูมิไม่เกิน 75 องศา ดีกรีประมาณ 12-13 ดีกรี ปล่อยให้เย็นจากนั้นก็เอามาบรรจุขวด ส่วนการทำกระชายดำหวาน ก็เอากระชายดำหันเป็นแว่นๆ เอาไปตากให้แห้ง จากนั้นก็เอามาบดให้ละเอียดแล้วเอามาต้มผสมกับน้ำตาล ปล่อยให้เย็นแล้วนำมากรองบรรจุขวดขาย จากการที่มีการประกวดไวน์ในงานดอกไม้เมืองหนาวของอำเภอภูเรือที่ผ่านมา ปรากฏว่าไวน์ของกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรหนองบง ได้รับรางวัลที่ 3 ในการประกวด