ภูมิปัญญาผ้าบาติก
ภูมิปัญญาผ้าบาติก
ประวัติความเป็นมา
จุดเริ่มเกิดจากนางภัณฑิลา เหมรักษ์ เป็นคนชอบงานศิลปะทั้ง ๆ ที่เรียนสายวิทย์ต่อมาได้ซื้อภาพเขียนผ้าบาติกมาติดฝาผนังที่บ้าน และนั่งมองภาพเขียนผ้าบาติกแล้วสร้างจินตนาการขึ้นมา จึงอยากทดลองเขียนผ้าบาติกดูบ้าง จึงไปซื้อผ้าและอุปกรณ์มาทดลองทำ แรกๆ ผลงานไม่สวย แต่ก็ได้ทำตามความตั้งใจ เพราะมีใจรักในงานศิลปะการทำผ้าบาติก และได้ทำผ้าบาติกเป็นงานอดิเรกเรื่อยมาเป็นการฝึกฝนพัฒนาฝีมือขึ้นเรื่อยๆ
ต่อมา ปี 2540 รู้จักกับคนขายเสื้อบาติกบนแหลมพรหมเทพ ก็เลยฝากผลงานไปขาย ปรากฏว่าขายได้ ทำให้มีรายได้ ต่อมาความต้องการของตลาดมีมากขึ้น จึงหันมาทำผ้าบาติกเป็นอาชีพหลัก และได้เผยแพร่ความรู้และสอนการทำผ้าบาติกให้กับผู้ที่สนใจในหมู่บ้าน เพื่อกระจายรายได้ให้กับคนในชุมชน จนกระทั่งปี 2546 จึงได้รวบรวมผู้ที่สนใจจัดตั้งเป็นกลุ่มทำผ้าบาติก หมู่ที่ 5 ตำบลท่าฉัตรไชย ตำบลไม้ขาวขึ้น โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า “กลุ่มรักษ์บาติก” เพราะเกิดจากความรักในศิลปะการทำผ้าบาติกและต้องการจะสืบสานศิลปะบนผืนผ้าอันงดงามนี้สืบไป โดยองค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาวได้สนับสนุนงบกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นเงิน 100,000 บาท ซึ่งทางกลุ่มก็ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยการสนับสนุนของหน่วยงานราชการต่างๆ เช่น พัฒนาชุมชน อุตสาหกรรม พาณิชย์ เกษตรและสหกรณ์ และอีกหลายๆ หน่วยงาน และต่อมาได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก OTOP และปี 2553 ได้ส่งเสื้อเชิ้ตบาติกเข้าคัดสรรฯ ได้ระดับ 5 ดาว
เอกลักษณ์/จุดเด่นผลิตภัณฑ์
ลักษณะที่โดดเด่นของผ้าบาติก คือ ศิลปหัตถกรรมบนผืนผ้าอันงดงาม เกิดจากฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่เขียนลวดลายสีสรรและเอกลักษณ์ที่สะท้อนถึงศิลปวัฒนธรรมความเป็นชาตินั้นๆ เช่น การนำเสนอภาพธรรมชาติ ภาพวัฒนธรรม และภาพจากจินตนาการของผู้เขียน เป็นภาพเขียน Free Hand 1 ตัว 1 ลาย 1 เดียวในโลก (กรณีไม่ใช่เสื้อที่สั่งทำเป็นหมู่คณะ)
วัตถุดิบและส่วนประกอบ
1. ผ้าที่ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้ามัสลิน ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ผ้าไหมไทย (ก่อนนำผ้ามาใช้ควรซักทำความสะอาดก่อนโดยซักผ้ากับน้ำเปล่าหรือน้ำส้มสายชูเพื่อให้สารฟอกขาวหรือแป้งที่ติดอยู่กับผ้าออกให้หมด)
2. ปากกาเขียนเทียน ใช้ตักน้ำเทียนเพื่อเขียนเส้นเทียนลงบนผ้าสร้างสรรค์เป็นลวดลายต่างๆ
3. เทียนสำหรับเขียนบาติก ใช้สำหรับเขียนลวดลายต่างๆ บนผืนผ้า เพื่อกั้นสีไม่ให้ไหลซึมเข้าหากัน
4. สีสำหรับทำผ้าบาติก เป็นสีย้อมเย็น มีลักษณะเป็นผง นำสีมาผสมกับน้ำอุ่น ปัจจุบันมีสีให้เลือกหลากหลาย
5. ไส้แทงปากกาเขียนเทียน เป็นอุปกรณ์ที่มีด้ามเป็นไม้ ส่วนปลายเป็นเส้นลวดขนาดเล็ก หรืออาจจะใช้สายกีต้าร์เส้นเล็กๆ แทนก็ได้ เพื่อแก้ปัญหาการอุดตันของปากกาเขียนเทียน โดยใช้ส่วนที่เป็นเส้นลวดแทงที่ปลายท่อของปากกา
6. น้ำยาเคลือบผ้ากันสีตกหรือโซเดียมซิลิเกต
7. พู่กันใช้สำหรับระบายสีผ้าควรเป็นพู่กันสำหรับระบายสีน้ำ ใช้ได้ทั้งชนิดกลมและแบน
8. ภาชนะต้มเทียน ควรเป็นโลหะที่ทนต่อความร้อนได้ดี เช่น อลูมิเนียม สแตนเลส เหล็ก เป็นต้น
9. เตาต้มเทียน ควรเป็นเตาไฟฟ้าที่ปรับอุณหภูมิได้ เพื่อควบคุมความร้อนของน้ำเทียนได้พอดี ทำให้การเขียนเส้นเทียนไม่มีปัญหา
10. เฟรมไม้ขนาดตามผลิตภัณฑ์ เช่น
– ผ้าเช็ดหน้า ใช้เฟรมขนาด 12 X 12 นิ้ว หรือ 17 X 17 ซม.
– เสื้อ ใช้เฟรมขนาด 135 X 180 ซม.
11. อุปกรณ์สำหรับต้มผ้า ได้แก่ กะละมังอลูมิเนียมหรือสแตนเลส ปิ๊บน้ำ หรือหม้อที่สามารถต้มน้ำเดือดได้ ส่วนเตาที่ใช้ต้มผ้าจะเป็นเตาแก๊สหรือเตาถ่านก็ได้
12. อุปกรณ์ทั่วไป ได้แก่
– แปรงขนาดใหญ่หรือลูกกลิ้ง สำหรับทาน้ำยาเคลือบกันสีตก
– กระป๋องพลาสติกขนาดเล็กสำหรับเก็บสีที่ผสมแล้ว
– จานสีหรือรางพลาสติกสำหรับทำน้ำแข็งภายในตู้เย็นสำหรับผสมสีเพื่อระบายควรเป็นสีขาว
– ดินสอ 2B หรือ 3B /ยางลบ /ไม้บรรทัดขนาดยาว
– สายวัด /กรรไกร /คัดเตอร์
– กะละมังหรือถังน้ำพลาสติกใช้ในการซักล้าง
– ถุงมือยางใช้ป้องกันไม่ให้มือสัมผัสกับสารเคมีจากน้ำยาโซเดียมซิลิเกต
– สบู่เหลวหรือผงซักฟอก
ขั้นตอนการผลิต
1. ขึงผ้าบนกรอบไม้ ให้นำผ้ามาขึงบนกรอบไม้ที่ทาเทียนไว้แล้ว โดยใช้ด้ามพู่กันถูบนผ้าไปมาทั้ง 4 ด้าน ดึงผ้าให้ตึงทีละด้าน
2. ร่างแบบ นำแบบมาวางด้านล่างกรอบไม้ที่ขึงผ้าไว้ ใช้ดินสอร่างภาพตามแบบที่ต้องการ
3. เขียนเทียน ใช้ปากกาเขียนเทียนเขียนตามเส้นดินสอที่ร่างแบบไว้
4. ระบายสี ระบายสีภาพตามแบบที่ร่างไว้
5. เคลือบน้ำยากันสีตก ใช้แปรงจุ่มโซเดียมซิลิเกตทาให้ทั่วผืนทิ้งไว้ 6-12 ชั่วโมง
6. ซักน้ำยาเคลือบ นำผ้าไปซักล้างโซเดียมซิลิเกตด้วยน้ำธรรมดา เปลี่ยนน้ำบ่อยๆ จนน้ำที่ซักใส
7. ต้มลอกเทียนและทำความสะอาดผ้า 2 ครั้ง ดังนี้
8. ต้มผ้าครั้งแรกด้วยน้ำร้อนให้ทั่วผืน แล้วใช้ไม้เกี่ยวผ้ายกขึ้น – ลงหลายๆ ครั้งให้เทียนหลุด
– ต้มผ้าครั้งที่สอง โดยใช้สบู่เหลวหรือผงซักฟอกใส่ลงไปในน้ำร้อน แล้วล้างผ้าให้สะอาด นำไปผึ่งให้แห้งในที่ร่มหรือแดดอ่อน
จากนั้นก็เป็นขั้นตอนการตกแต่งผ้าหรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ผ้าบาติกอื่น ๆ เช่น เย็บผ้าเป็นผ้าเช็ดหน้า หรือตัดผ้าเป็นเสื้อสุภาพบุรุษ – สตรี และอื่น ๆ ตามต้องการ
เทคนิค/เคล็ดลับการผลิต
ขณะทำผ้าบาติก การผสมน้ำเทียนต้องพอดี เวลาเขียนลายเส้นเทียนจะคมชัดและสวยงาม ไม่แตกง่าย สำหรับสีลงผ้าบาติกจะผสมน้ำอุ่นเพื่อให้สีแตกตัวได้ดี และมีสีสดสวย การผสมสีควรผสมให้พอดีในการใช้งาน ไม่ให้เหลือแต่ละครั้ง
การเคลือบน้ำยากันสีตก ต้องทิ้งไว้อย่างน้อย 12 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำยาทำปฏิกิริยาจับเนื้อผ้าให้คงทนยิ่งขึ้น
ใส่ความเห็น
Comments 0