คลังคำศัพท์
กก ชื่อพรรณไม้ชนิดหนึ่งขึ้นในที่มีน้ำแฉะ ลำต้นกลมสูง ใช้ทอเสื่อ เรียกเสื่อกก
กง ส่วนประกอบของเรือทำด้วยไม้ตามรูปร่างเรือ ตั้งบนไม้กระดูกงูเรียงกันเป็นช่วงๆตลอดลำ เพื่อรับไม้ข้างเรือและไม้ท้องเรือที่ประกอบกันขึ้นเป็นเรือ กงมักเรียกตามลักษณะและการใช้งาน เช่น กงค้างหรือกงข้าง คือกงข้างเรือลงไปไม่ถึงท้องเรือ
กงเกวียน ไม้รอบล้อเกวียนรูปวงกลม ทำด้วยไม้เนื้อแข็งโค้งเป็นส่วนๆ แล้วนำมาประกอบกันจนเป็นวงกลม มีกำทำด้วยไม้เป็นซี่ เรียงกันจนเต็มวงล้อประมาณ 16 ซี่ ด้านหนึ่งของกำฝังลงในดุมซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของล้อเกวียน ล้อเกวียนจึงประกอบกันเป็นวงล้อได้ด้วย กง กำ ดุม กงเกวียน บางทีเรียก ไม้ฝักมะขาม ตามลักษณะของไม้ที่เลื่อยให้โค้งอย่างฝักมะขามเป็นชิ้นๆแล้วนำมาต่อกันจนเป็นวงกลม
กงจักร เครื่องเล่นอย่างหนึ่งทำด้วยฝากระป๋องนม ฝาขวดโซดา หรือ ฝาเบียร์ที่ทุบให้แบน เจาะรูตรงกลางสองรูให้ห่างกันประมาณ 1-2เซนติเมตร ร้อยเชือกผ่านรูทั้งสองให้ยาวประมาณ 2 คืบ ผูกปลายเชือกเข้าด้วยกัน เลื่อนฝากระป๋องหรือกงจักรให้อยู่กึ่งกลางเชือก สอดนิ้วกลางของทั้งสองมือเข้าระหว่างปลายเชือกทั้งสองข้าง แกว่งเชือกให้กงจักรหมุนกลับไปกลับมา จะเร็วจะช้าขึ้นอยู่กับจังหวะการดึงเชือกของผู้เล่น กงจักรเป็นเครื่องเล่นพื้นบ้านที่เด็กมักทำเล่นเมื่อประมาณ 50 ปีที่แล้ว
กงดีดฝ้าย เครื่องดีดฝ้ายให้ปุย ทำด้วยไม้ไผ่คล้ายคันกระสุน แต่ด้านหนึ่งโค้งยาวกว่าอีกด้านหนึ่ง มีเชือกขึงเป็นสายสำหรับดีดฝ้าย การยิงหรือดีดฝ้ายใช้ด้านยาวลงไปดีดฝ้ายที่อยู่ในกะเพียดหรือภาชนะใส่ฝ้าย โดยดึงสายกงแล้วปล่อยสลับกันไปเรื่อยๆจนปุยฝ้ายฟู จึงขยุ่มปุยฝ้ายไปพันรอบไม้กลมๆคล้ายตะเกียบอย่างหลวมๆเพื่อนำไปปั่นเป็น เส้นด้ายต่อไป
กบ เครื่องมือสำหรับไสไม้ให้เรียบ หรือไสตามลักษณะที่ต้องการ เช่น ไสเป็นราง บัว บังใบ กบแต่เดิมทำด้วยไม้เนื้อแข็งเป็นแท่งสี่เหลี่ยม เจาะเป็นช่องสำหรับสอดใบกบที่แผ่นเหล็ก ปลายคมอย่างสิ่วเป็นตัวไสไม้ หน้าของใบกบจะเป็นตัวกำหนดรูปร่างของไม้ที่ไสให้มีรูปต่างๆ กบที่ใช้โดยทั่วไปมีหลายชนิด ได้แก่ กบกระดี่ กบนาง กบบรรทัด กบบัว กบทวาย เป็นต้น ภาคเหนือ เรียก เต่า
กบาล ภาชนะทำด้วยกาบกล้วยเป็นรูปกระบะ ใช้ใส่กระทงเครื่องเซ่นผีและตุ๊กตาดินเหนียว หรือตุ๊กตาเสียกบาล เพื่อนำไปวางทิ้งไว้ที่ทางสามแพร่งหรือปล่อยลอยน้ำเพื่อสะเดาะเคราะห์
กรบ เครื่องมือแทงปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง ลักษณะคล้ายฉมวกแต่ขนาดใหญ่กว่าทำด้วยเหล็กขนาดนิ้วมือ ปลายแหลมมีด้ามยาว ตัวกรบแยกเป็น๓แฉก 5 แฉก หรือ 7 แฉก ด้ามงอโค้งรับกับมือเพื่อให้จับสะดวก บางทีแกะสลักเป็นรูปสัตว์ เช่น นก ลิง งู ส่วนต่อจากตัวกรบทำด้วยไม้รวกหรือไม้ไผ่ขนาดโดตกว่าหัวแม่มือ ยาวประมาณ 2 ศอก มี 3 อัน หรือ 5 อัน แล้วแต่จำนวนแฉกของกรบนั้น ปลายด้านล่างจะสวมเหล็กแหลม โดยใช้ครั่งยึด มีปลอกเล็กเป็นแหวนรัดอีกที เช่นเดียวกับฉมวก ระหว่างกลางมักมีหวายมัดรัดไม่ให้ตัวกรบแยกจากกันระหว่างจับปลา
กรบ บางถิ่นเรียกว่า กบหรือตบ
กรรไกร เครื่องมือสำหรับตัดโดยใช้หนีบทำด้วยเหล็ก มีสองขาและมีความคมอย่างมีด มีด้ามเป็นที่หนีบ จุดหมุนอยู่ที่หัว กรรไกรจะมีรูปร่างต่างกันและเรียกชื่อตามลักษณะการใช้หรือรูปร่าง ได้แก่ กรรไกรหนีบหมาก กรรไกรหัวหงส์ กรรไกรตัดผม กรรไกรตัดกระดาษ เป็นต้น กรรไกร บางทีเรียก กรรไตร ตะไกร
กรวย สิ่งที่มีรุปร่างกลมกลวงยาวเรียวแหลม เช่น กรวยที่เย็บด้วยใบตองสำหรับใส่ดอกไม้ หรือกรวยครอบกระทงทีฝาเป็นกรวย ข้างในใส่ดอกไม้ เป็นต้น หรือ กรวยสำหรับใช้กรอกของเหลวให้ไหลลงในภาชนะปากแคบ
กร้อ เครื่องจักสานยาด้วยชันและน้ำมันยาง รูปร่างคล้ายบุ้งกี๋แต่เล็กกว่า ใช้สำหรับวิดน้ำ กร้อมักยาชันเคลือบจนหนาเพื่อความทนทานและไม่ให้น้ำซึมรั่ว กร้อ บางถิ่น เรียก ตะกร้อ แครง แคลง
กรอง เครื่องจักสานไม้ไผ่สำหรับกรองของเหลว สานด้วยตอกเล็กๆ และสานเป็นตาถี่ๆ พอให้ของเหลวผ่านได้แต่สิ่งอื่นๆ ผ่านไม่ได้
กระจับ เครื่องแขวนสำหรับตกแต่งชนิดหนึ่ง ใช้แขวนเปลเด็กให้แกว่งไปมาเมื่อเปลไกว ให้เด็กดูเพลินก่อนนอนเหมือนปลาตะเพียนใบลาน แต่เดิมทำด้วยเศษผ้าเย็บเป็นรูปกระจับหรือรูปสามเหลี่ยม ข้างในยัดนุ่นร้อยด้วยด้ายแขวนเป็นพวง ระหว่างตัวกระจับอาจร้อยสลับด้วยลูกปัด กระดาษตะกั่วในซองบุหรี่ หรือลูกเดือยแล้วแต่จะหาได้
กระจับแรม เครื่องดักปลาไหลสานด้วยตอกไม้ไผ่ รูปร่างคล้ายขวดคอคอด ก้นมีช่องสำหรับใส่งาสามช่อง งาแต่ละอันสามารถถอดเข้าออกได้โดยมปิ่นหรือสลักไม้ไผ่เสียบสองข้างของงา ตัวกระจับแรมจะสานทึบ ส่วนที่ปากจะมีเหยื่อจำพวกหอยเน่า ปูเน่า สอดไว้ภายในเพื่อไม่ให้เหยื่อเสียหาย และยังช่วยรักษากลิ่นคาวของเหยื่อไว้ได้นานอีกด้วย กระจับแรมมีช่องให้ปลาเข้า 3 ทาง ชาวบ้านบางท้องถิ่นจึงเรียก อีจู้สามทาง ในภาคใต้เรียก ข้องดักปลาไหล
กระจ่า เครื่องใช้ครัวเรือนสำหรับตักอาหาร ตัวกระจ่าทำด้วยกะลา ด้ามทำด้วยไม้ ใช้หวายผูกตัวและด้ามให้ติดกัน กระจ่าที่ใช้ทั่วไปมี 3 ชนิด คือ กระจ่าชนิดแบนใช้ตักข้าว ชนิดลึกใช้ตักแกง ชนิดลึกมากให้ตักของหวาน กระจ่า ภาคเหนือเรียกว่า พาก ภาคใต้เรียก จวักหรือหวัก
กระจาด ภาชนะสานด้วยตอกและหวาย รูปร่างเตี้ยๆ ปากกลมก้นสอบเป็นสี่เหลี่ยมหรือหกเหลี่ยม ตัวกระจาดสานทึบหรือสานโปร่งด้วยลายเฉลวหกมุม เฉลงดาว ลายตาจีนหรือลายตาชะลอม ปากมีขอบไม้ผูกด้วยหวาย ก้นเสริมขอบและทำขาเพื่อความแข็งแรงและทนทาน โดยทั่วไปใช้ใส่พืชผักผลไม้กระจาดอาจเรียกเครื่องสานที่สานตาโตๆมีขอบปากสำหรับใส่ของอย่างอื่น เช่น ภาชนะสำหรับใส่สิ่งของทิ้งเป็นทานในพิธีทิ้งกระจาด หรือเรียกตามการใช้งาน เช่น กระจาดผลไม้ กระจาดหาบ เป็นต้น
กระจูด พรรณไม้ชนิดหึ่งลำต้นกลม ข้างในกลวง มีเยื่ออ่อนขั้นเป็นข้อๆ ขึ้นในที่ชื่นแฉะ ชาวบ้านนำมาสานเป็นเครื่องใช้ โดยตัดต้นกระจูดมาคลุกโคลนดินสอ ตากแดด ตากน้ำค้าง แล้วทุบให้แบนด้วยสาก แล้วสานเป็นเสื่อ หรือ สาด
กระชอน เครื่องกรองของเหลวชนิดหนึ่ง สานด้วยตอกไม้ไผ่เป็นตาถี่ๆ รูปร่างคล้ายมะนาวตัด หรือบางทีทำขอบเป็นสี่เหลี่ยม มีหูสำหรับวางหาดปากหม้อ ปกชาม เพื่อกรองกะทิ กรองเล็ดพืช หรือใช้ตากเมล็ดพืชชนิดเล็กๆ ได้แก่ เมล็ดแตงกวา ฟัก แฟง แตงโม เป็นต้น
ข่ม การสานที่ใช้ตอกกดลงบนตอกอีกเส้นหนึ่ง อาจจะสอดขัดกันในแนวตั้งฉากตามลักษณะลายขัด หรือสอดในมุมทแยงอย่างลายเฉลวหรือลายตาเข่ง ข่มเป็นวิธีสานที่สลับกับยก หรือยกตอกขึ้นเพื่อสอดตอกเข้าไปแล้วข่มหรือกดลง การสานยกและข่มเป็นพื้นฐานของการสานและการทอ
ขยาบ เครื่องกันแดดและฝนบนเรือกำปั่นหรือเรือเอี้ยมจุ๊น ทำด้วยไม้เป็นแผงสี่เหลี่ยมกรุด้วยใบจาก ใบตาล หรือสังกะสีพาดเป็นเพิงต่อจากประทุนท้ายเรือ มักเลื่อนเข้าออกได้
ขลุม เชือกถักสวมหัวม้าสำหรับล่ามหรือจูง บางถิ่นใช้เชือกร้อยกับไม้สองอันขนาดเท่ากับหน้าม้าเพื่อช่วยไม่ให้ขลุมหลุดง่าย “ขลุม” อีสานเรียก “แคม้า,เค่มม้า”
ขอ เครื่องแขวนคอสัตว์เพื่อให้เกิดเสียง ตัวขอขุดด้วยไม้เนื้อแข็งมีหูไม้สำหรับผูกเชือกสองข้าง ขุดเป็นโพรง มีไม้เล็กๆ เป็นลูกกระทบห้อยอยู่ในด้านในสองหรือสามอัน เมื่อแกว่งจะเกิดเสียงทำให้เจ้าของรู้ว่าสัตว์ของตนอยู่ที่ไหน
ข้อง เครื่องจักสานสำหรับใส่ปลาหรือสัตว์น้ำ มีรูปร่างต่างกันไปตามการใช้งาน เช่นข้องสำหรับสะพายหรือหิ้วมักมีรูปกลม คอคอด ปากกลม มีงาเป็นฝาปิด เรียก ข้องตั้งหรือข้องยืน ข้องสำหรับลอยน้ำ คอกลม ตัวข้องป่อง มีทุ่นขนาบเพื่อให้ลอยน้ำได้ เรียกว่า ข้องลอยหรือข้องเป็ด “ข้อง” บางทีเรียก “ตะข้อง”
ขัน ภาชนะสำหรับใส่หรือตักน้ำดื่ม หรือใส่ข้าว รูปมะนาวตัด ทำด้วยวัสดุหลายชนิด เช่น เงิน ทองแดง ทองเหลืองเป็นต้น มีทั้งชนิดมีลวดลายและไม่มีลวดลาย การเรียกชื่อขันจะเรียกตามการใช้งาน เช่น ขันเชิง ขันมีเชิงสำหรับตั้ง ขันน้ำพานรอง ขันที่มีพานรองรับ เป็นต้น
เข่ง ภาชนะจักสานด้วยตอกเป็นตาโปร่งรูปหกเหลี่ยมเรียก ลายตาเข่ง เข่งมีรูปร่างและขนาดต่างๆ กัน เรียกตามการใช้สอย เช่น ใส่ปลาทู เรียกเข่งปลาทู เข่งสำหรับใส่ไก่ เรียกเข่งไก่ เป็นต้น
เขนง ภาชนะสำหรับใส่ดินปืนที่ใช้ที่ใช้ประจุปืนแก๊ป ทำจากเขาวัวหรือเขาควาย โดยอุดโคนเขาให้ตันแล้วตัดด้านแหลมปืนปากสำหรับกรอกดินปืน ใช้ไม้กลึงหรือถากเป็นจุก และมีพวยสำหรับกรอกดินปืนเข้ากระบอกปืน และมักมีถุงที่ถักด้วยหวายสำหรับใส่กระสุนปืนด้วย บางถิ่นทำด้วยไม้เป็นรูปร่างต่างๆ กันและแกะสลักเป็นลวดลายทารักหรือชาด
เขิง เครื่องจักสานสำหรับจับสัตว์น้ำประเภทตะแกรงแต่มีขนาดเล็ก ใช้ช้อนกุ้ง ปู ปลาในที่น้ำตื้น
เขียง ไม้แผ่นกลมๆ หรือสี่เหลี่ยม มักทำจากไม้เนื้อเหนียว เช่นไม้มะขาม ใช้รองหรือสับ เขียงมีขนาดต่างๆ กันตามการใช้สอย มีขนาดตั้งแต่เส้นผ่าศูนย์กลางเพียงหนึ่งคืบจนถึงหนึ่งศอก
คนโท ภาชนะสำหรับใส่น้ำ รูปร่างกลมอย่างหม้อน้ำแต่มีขนาดเล็ก คอสูง มักทำด้วยดินเผาไม่เคลือบเพื่อให้น้ำเย็นน่าดื่ม อาจตกแต่งลวดลายหรือขัดผิวให้มัน ในภาคเหนือเรียก กุณโฑหรือน้ำต้น
คบไฟ ของใช้สำหรับจุดไฟให้สว่าง ใช้ใบไม้ ขี้กบแห้งๆ หรือเปลือกไม้ เช่น เปลือกเสม็ดคลุกน้ำยาง ห่อด้วยใบจากรวมกันเป็นดุ้นยาวๆ เรียก “ไต้”
ครก เครื่องใช้สำหรับตำหรือโขลกของให้ละเอียด ทำด้วยไม้ หิน ดินเผาหรือโลหะ มีรูปร่างแตกต่างกันไปตามการใช้สอยวัสดุ แต่ต้องมีหลุมตรงกลางสำหรับใส่สิ่งที่ต้องการต่ำ โดยใช้สากเป็นเครื่องตำหรือโขลก ครกมีหลายขนาดตั้งแต่ขนาดเล็กสูงเพียง 3-4 นิ้ว ไปจนถึงครกขนาดใหญ่
คราด เครื่องมือสำหรับชักหรือลากขี้หญ้าในนา ทำด้วยไม้ มีฟันเป็นซี่ๆคล้ายหวี มีด้ามสำหรับถือ หาเป็นคราดขนาดใหญ่ที่ใช้ทำนาต้องใช้วัวหรือควายลาก โดยมีคันชักที่ปลายตัวคราดทั้งสองข้าง ปลายคันชักมีคล้องคล้ายแอกหรือคอม คราดมี๒ชนิด คือ คราดเดี่ยว ใช้วัวหรือควายลากเพียงตัวเดียว และ คราดคู่ ที่ใช้วัวหรือควายลากสองตัว คราด ภาคเหนือเรียกว่า ขอแหย่ง คราดทำนาเรียก เผือ
คร่ำ งานหัตถกรรมประเภทหนึ่งใช้เงินหรือทองฝังลงในเนื้อเหล็กเป็นลวดลาย เพื่อตกแต่งภาชนะเครื่องใช้หรืออาวุธ เช่น กรรไกร ดาบ หอก ง้าวเป็นต้น หากใช้เงินฝังเรียก คร่ำเงิน หากใช้ทองฝั่งเรียก คร่ำทอง
ครุบ เครื่องดักสัตว์ขนาดเล็ก เช่น นก หนู ทำด้วยตาข่ายหรือสานด้วยไม้ไผ่ใช้เหยื่อล่อให้สัตว์เข้าไปติดและจับได้ขณะ ที่สัตว์ยังไม่ตาย ครุบดักนกเรียก ครุบนก ดักหนูเรียก ครุบหนู ครุบชนิดหนึ่งเป็นครุบจับตายเรียก ครุบตาย กระท้ำหรือขะตำ ซึ่งเป็นกับดักหนูประเภทเดียวกับฟ้าทับเหว (ดูฟ้าทับเหว)
คล็อก มีดชนิดหนึ่งมีปลายแหลมงอน ด้ามงอเล็กน้อย มีฝักหรือปลอกสำหรับเก็บมีดเมื่อใช้เหน็บเอวเช่นเดียวกับมีดพกในภาคกลาง ใช้สำหรับป้องกันตัว บางเล่มใช้ในการแกะสลักด้ามเป็นลวดลาย การเรียกมีดชนิดนี้ว่า คล็อก สันนิษฐานว่ามาจากภาษามลายู แปลว่า คดหรืองอ ตามลักษณะของด้ามมีดที่มีด้ามงอ มีดคล็อก บางถิ่นเรียก คล็อก ไม้คล็อก
ค้อน เครื่องมือสำหรับ เคาะ ตอก ตี ทุบ ทำด้วยวัสดุหลายอย่าง เช่น ไม้ เหล็ก ทองเหลือง มักทำหัวให้งอตั้งฉากกับด้าม รูปร่างหัวค้อนแตกต่างกันตามการใช้สอย เช่น กลม สี่เหลี่ยม เป็นต้น
คาน ใช้สำหรับหาบหรือหามสิ่งของ ทำด้วยไม้ หรือไม้ไผ่ คานไม้ไผ่สำหรับหาบใช้ไม้ไผ่ผ่าซีกขนาดเท่าผ่ามือ เหลาให้กลางป่อง หัวและท้ายเรียวเล็ก เหลือข้อไม้เป็นปุ่มไว้กันไม่ให้สาแหรกหรือเชือกหูกระบุง หูกระปาหรือหูภาชนะเลื่อนหลุดจากปลายคาน คานไม้ไผ่ในบางถิ่นทำปลายคานเป็นรูปต่างๆ ให้สวยงาม เช่นทำให้โค้งงอนขึ้น เรียกว่า คานหงส์
เครื่องกลึง เครื่องมือสำหรับทำให้ไม้หรือวัสดุนำมากลึงหมุน แล้วใช้สิ่วแทงสกัดให้เป็นรูปตามต้องการ เช่น กลึงเป็นเสาลูกกรง ขาตู้ ขาโต๊ะ กลอง เครื่องกลึงของช่างไทยโบราณทำให้วัตถุหมุนกลับไปกลับมา มิได้หมุนไปทางเดียวกันอย่างเครื่องหมุนที่ใช้มอเตอร์แบบปัจจุบัน ช่างโบราณทำเครื่องกลึงแบบต่างๆ ง่ายๆ 3 วิธี คือ
1.เครื่องกลึงแบบใช้มือชัก โดยใช้เชือกพันกับวัตถุที่ต้องการกลึงแล้วใช้มือชักปลายเชือกทั้งสองข้าง สลับกันไปมาให้วัตถุหมุน
2.เครื่องกลึงแบบใช้กงชักหรือคันชัก โดยใช้เชือกคันชักพันกับวัตถุแล้วชักคันไปมา
3.เครื่องกลึงชนิดคันเบ็ด กลึงโดยใช้เชือกผูกกับปลายลำไม้ไผ่ที่โค้งอย่างคันเบ็ด พันเชือกเข้ากับวัตถุแล้วโยงไปผูกกับไม้กระเดื่องซึ่งอยู่ข้างล่าง ใช้เท้าเหยียบกระเดื่องเป็นจังหวะ เชือกจะดึงสิ่งที่ต้องการจะกลึงหมุนไปมา เครื่องกลึงชนิดนี้บางทีเรียกว่า ภมร ภาคเหนือเรียกว่า เคี่ยนหรือเฅี่ยน และ เรียกช่างกลึงว่าช่างเคี่ยนหรือช่างเฅี่ยน
เครื่องเขิน ภาชนะไม้ไผ่สายเคลือบน้ำรักสีดำ หรือทาเคลือบด้วยชาดให้มีสีแดง หากเป็นของเจ้านายจะตกแต่งด้วยสีทองและลวดลายวิจิตรงดงาม เครื่องเขินนี้เป็นงานศิลปหัตถกรรมที่ทำในเชียงใหม่เพียงแห่งเดียวเหตุที่เรียกเครื่องเขินเพราะไทเขินเป็นชนชาติผู้เป็นเจ้าของงานมา ก่อนเครื่องเขินเข้ามาในเชียงใหม่พร้อมกับอพยพของพวกไทยเขินในสมัยพระเจ้ากาวิละ กล่าวกันว่าชาวไทยเขินได้รับการสืบทอดการทำเครื่องเขินต่อ ๆ กันมา โดยอาศัยการซึมซับวิธีการจากครอบครัวและชุมชน สมัยนั้นไม่มีการจารึกวิธีทำเป็นลายลักษณ์อักษร ต่างเรียนรู้สืบต่อมา
เคียว เครื่องมือทางการเกษตรชนิดหนึ่งใช้สำหรับเก็บเกี่ยวพืชผลประเภทข้าวและ ธัญพืช มีลักษณะเป็นมีดทำด้วยเหล็ก โค้งคล้ายตะขอและมีคมอยู่ด้านใน มีด้ามจับสำหรับถือ มีชื่อที่แตกต่างไปในแต่ละภาค เช่น ตรูด กรูด ผู้ใช้งานจะใช้เคียวเกี่ยวไปที่ฐานของต้นพืชและตัดออก เคียวแบบด้ามสั้นอาจทำให้เกิดอาการปวดหลังเมื่อใช้เป็นระยะเวลานานเนื่องจาก ต้องยืนก้มอยู่ตลอด (ด้วยเหตุนี้จึงเรียกชาวนาว่าเป็นกระดูกสันหลังของชาติ) จึงมีเครื่องมืออีกอย่างหนึ่งคือเคียวด้ามยาว ซึ่งมีด้ามจับยาวกว่าและไม่ต้องก้มให้ปวดหลัง
ฅ้อน โคนไม้ไผ่ขนาดท่อนแขน ยาวประมาณศอกเศษ ใช้ฟาด ทุบ ตีหรือขว้าง
ฅ้อนค้อง ไม้ตีค้อน ทำด้วยไม้เนื้อแข็งขนาดเท่าหัวแม่มือ ยาวประมาณ 8-9 นิ้ว ปลายเป็นปุ่ม พันผ้าแถบจนเป็นปุ่มกลม ขนาดเหมาะกับขนาดฆ้อง
ฅ้อนหน้าแว่น (ถิ่นเหนือ ดู ตะลุมพุก)
เฅียง (ถิ่นเหนือ ดู เตาก้อนเส้า)
เฅียว (ถิ่นเหนือ ดู ตะลุมเคียว)
เฅี่ยน (ถิ่นเหนือ ดู เครื่องกลึง)
งอบ เครื่องสานที่มีโครงสร้างเป็นไม้ไผ่ซึ่งจักเป็นเส้นยาวที่เรียกว่า ตอก และใบลาน ใบตาล หรือกาบหมากมาต่อเป็นรูปทรง งอบมีประโยชน์เช่นเดียวกับหมวกหรือร่ม เป็นเครื่องสานที่มีความสำคัญต่อความเป็นอยู่ของชาวไร่ ชาวนา ในชนบทมาก คนไทยในภาคต่างๆที่มีเครื่องสานที่ใช้ประโยชน์เช่นเดียวกับงอบ แต่เรียกไม่เหมือนกัน เช่น ภาคเหนือ เรียกว่า “กุบ” ภาคใต้ เรียกว่า “กุ้ยเล้ย” งอบประกอบไปด้วยโครงสร้างสำคัญคือ
1. โครงงอบ สานด้วยตอกไม้ไผ่ หลังจากสานโครงเสร็จแล้ว จะกรุด้วยใบลานเพื่อโครงสร้าง
2. กระหม่อมงอบ ทำด้วยใบลานเย็บต่อกันเป็นแผ่นกลม รูปทรงเหมือนฝาชี เย็บปิดรูตรงกลางของงอบ รูนี้เป็นช่องสำหรับเริ่มต้นกรุใบลานปิดโครงไม้ไผ่
3. เส้นประกบของงอบ ทำด้วยไม้ไผ่เหลาเป็นเส้นกลม ทำให้งอบแข็งแรง
4. รังงอบ คือส่วนที่สวมหัว สานด้วยไม้ไผ่เป็นรูปทรงกระบอกและผูกติดกับโครงงอบ ในปัจจุบัน การสานงอบยังใช้วิธีแบบดั้งเดิมซึ่งบรรพบุรุษเคยทำมา ไม่มีการเปลี่ยนแบบหรือรูปทรง ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะตัว สวยงามอย่างเรียบง่ายและคุณประโยชน์
งัว ไม้สานหญ้าคาสำหรับมุงหลังคา ทำด้วยกระบอกไม้ปาดสองข้างเข้าหากันเหลือเป็นซี่ไว้สองข้างคล้ายฟันหวี ส่วนกระบอกที่เหลือไว้เป็นด้ามมีไม้สลักขวางกันไม่ให้มือลื่น จับได้กระชับและถนัดมือ งัวใช้สางหญ้าคาให้เป็นระเบียบก่อนที่จะนำไปผูกเป็นตับมุงหลังคา “งัว” บางถิ่นเรียกว่า ไม้ปากกา ตามรูปร่างที่คล้ายปากกา
งา ส่วนหนึ่งของเครื่องดักสัตว์ เช่น งาลอบ งาไซ เป็นต้น ทำเป็นซี่ๆ ปลายสอบเข้าหากัน เพื่อให้ปลาไปได้แต่ออกไปไม่ได้ งาที่ใช้ดักปลามี 2 ชนิด คือ งาแข็งและงาอ่อน
1. งาแข็ง สานด้วยตอกให้ปากกว้างปลายสอบเข้าหากัน มักใช้กับเครื่องดักปลาที่มีเกล็ด
2. งาอ่อน ทำด้วยไม้ไผ่เหลาเป็นซี่เล็กๆ ปลายแหลม ใช้หวายหรือด้ายผูกโยงเรียงกันให้ปลายสอบก่ายกันคล้ายนิ้วมือที่ประสานกัน ปลายงาจะกางออกเมื่อปลาผ่านเข้าไป มักใช้กับเครื่องดักปลาไม่มีเกล็ด
โง่ ภาชนะสานด้วยไม้ไผ่สำหรับใส่สิ่งของสะพายหลังของชาวกะเหรี่ยง สานด้วยไม่ไผ่ ปากกลม ก้อนสอบเป็นสี่เหลี่ยม คล้ายกระบุงแต่จะชะลูดกว่ากระบุง มีหูสำหรับร้อยเชือกสะพายบ่าสี่มุม เพื่อร้อยเชือกสองเส้น เส้นละสองหู ปลายเชือกแต่ละเส้นผูกกับไม้รูปร่างคล้ายสระอา (า) ซึ่งเกี่ยวกับไหล่พอดีชาวกระเหรี่ยงใช้ภาชนะชนิดนี้สะพายหลังเดินทางขึ้น หรือลงเขา “โง่” บางที เรียกว่า “ไหน่”
ฉมวก เครื่องมือแทงปลาเป็นต้น มีง่ามเป็น 1,3 หรือ 5 ขา ที่ ปลายขาทำเป็นเงี่ยง มีด้ามยาว
ฉลอม ชื่อเรือต่อชนิดหนึ่ง คล้ายเรือกระแชง หัวท้ายงอนเรียว กลาง ป่องตัวเรือเป็นเหลี่ยม กระดานข้างเรือเป็นทับเกล็ด นิยมใช้ตามหัวเมืองชาย ทะเลแถบปากอ่าวสำหรับบรรทุกสินค้าหรือหาปลา สมัยโบราณเวลาเกิดศึก สงครามก็จะถูกเกณฑ์ไปใช้ในราชการทัพด้วย อาจติดใบหรือไม่ก็ได้
เฉลว เครื่องจักสานชนิดหนึ่ง ทําด้วยตอกหักขัดกันเป็นมุม ตั้งแต่ 5 มุมขึ้นไป สําหรับปักหม้อยา ปักเป็นเครื่องหมายที่สิ่งของ ซึ่งจะขาย ปักบอกเขต หรือปักบอกเขตด่านเสียค่าขนอน, ฉลิว หรือ ตาเหลว
เฉลียง ส่วนของโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญที่ต่อออกมาโดยรอบ หรือส่วนของเรือนที่ต่อออกมาด้านหัวและท้ายเรือน สําหรับนั่งเล่นหรือเดินติดต่อกันเป็นต้น
โฉง ขวานถากไม้ชนิดหนึ่ง รูปร่างคล้ายจอบ
ชงโลง เครื่องวิดนํ้ารูปคล้ายเรือครึ่งท่อน มีด้ามถือ ผูกแขวน เข้ากับขาหยั่ง แล้วจับด้ามให้พุ้ยนํ้าเข้าออกตามต้องการ, ชฏาใบลาน
ชนัก เครื่องแทงสัตว์ชนิดหนึ่ง ทําด้วยเหล็กปลายเป็นรูป ลูกศร มีด้ามยาวมีเชือกชักเมื่อเวลาพุ่งไปถูกสัตว์; เครื่องผูกคอ ช้างทําด้วยเชือกเป็นปมหรือห่วงห้อยพาดลงมาเพื่อให้คนที่ ขี่คอใช้หัวแม่เท้าคีบกันตก. (รูปภาพ ชนัก)
ชนาง เครื่องดักปลาและสัตว์ป่า เช่น บ้างวงข่ายราย รอบปาก ชนาง
ช่อ ใบไม้หรือดอกไม้ที่แตกออกเป็นพวง, เรียกดอกของต้นไม้ บางชนิดเช่นมะม่วงและสะเดาที่ออกดอกเล็กๆ เป็นกลุ่มหรือ เป็นพวงว่า ช่อมะม่วง ช่อสะเดา, ใบไม้หรือดอกไม้ที่ผูกเป็น กลุ่ม หรือเป็นพวงโดยปริยาย เรียกสิ่งอื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ช่อดอกไม้ไฟโคมช่อองุ่น.
ช้อน เครื่องใช้สําหรับตักของกิน มีที่จับยื่นออกมา, ลักษณนาม ว่า คัน, ราชาศัพท์ว่าฉลองพระหัตถ์ช้อน; เรียกเครื่องใช้ที่มีรูป คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ช้อนรองเท้า; เครื่องจับปลาชนิดหนึ่ง ใหญ่กว่าสวิง ถักเป็นร่างแห ขอบเป็นรูปสามเหลี่ยมหรือ วงกลม มีด้ามจับ. ก. ตักเอาสิ่งที่อยู่ในนํ้าหรือในของเหลว เช่น ช้อนปลา ช้อนลูกนํ้า ช้อน แหน ช้อนผง; โดยปริยาย หมายถึงอาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ช้อนหุ้น; เอามือ เป็นต้นสอดลงไปข้างล่างแล้วยกขึ้น เช่น ช้อนศีรษะ; เหลือบขึ้น เช่น ช้อนตา.
ชะเนาะ ไม้สั้นๆ สำหรับขันบิดเชือกที่ผูกให้แน่นเช่นในการ ทํานั่งร้าน, ลูกชะเนาะ
ชะลอม เครื่องสานชนิดหนึ่ง รูปทรงกระบอก สานด้วยตอก เป็นต้น ตาห่างๆ สําหรับใส่สิ่งของ, อีสานเรียก กระลอม
ชะล่า ชื่อเรือขุดชนิดหนึ่ง ท้องแบน หัวเชิดขึ้นเล็กน้อย หัวตัด ท้ายตัดมีขนาดยาวมาก.
ชะแลง เครื่องมือชนิดหนึ่ง ทําด้วยท่อนเหล็กมีปลายแบน สําหรับ งัดสิ่งของหรือขุดดิน.
ช่าง ผู้ชํานาญในการฝีมือหรือศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ช่างตัดเสื้อช่างไม้ ช่างไฟ. ว. มีนิสัยชอบในทางใดทางหนึ่ง เช่น ช่างคิด ช่างพูด ช่างประดิษฐ์, มีลักษณะนิสัยโน้มไป ในทางนั้นๆ เช่น ช่างโง่จริงๆ ช่าง เก่งจริงๆ
ชาม ภาชนะรูปคลุ่มๆ ชนิดหนึ่ง สําหรับใส่อาหารเป็นต้น. ชามอีโน (โบ) น. ชามขนาดใหญ่อย่างชามโคม
ชุด เครื่องดักปลาชนิดหนึ่ง ถักด้วยหวายหรือเถาวัลย์เป็นตา; สิ่งที่ถักด้วยหวายหรือเถาวัลย์เป็นตาห่างๆ รูปคล้ายกระชุ สําหรับใส่หมูเป็น
ชุน ซ่อมผ้าหรือแหเป็นต้นที่ขาดทะลุเป็นรูให้เป็นเนื้อเดียวกัน ด้วยการถักหรือด้วยวิธีอื่นๆ. น. เครื่องมือสําหรับถัก
เชงเลง เครื่องมือจับปลาชนิดหนึ่ง ทําด้วยซีกไม้ไผ่มัดด้วยหวาย รูปคล้ายขวด
เชิงกราน เตาไฟปั้นด้วยดินยกตั้งได้ มีชานสําหรับวางฟืน; เรียกกระดูกตะโพกที่มีสัณฐานอย่างเชิงกรานว่า กระดูกเชิงกราน
เชิงชาย ไม้เครื่องเรือนรูปแบน สําหรับรับชายคาเรือน ที่ไม่มีกลอน, ถ้าเรือนมีกลอนเชี่ยนหมาก ภาชนะสำหรับใส่เครื่องหมากพลู
โชงโลง เครื่องวิดนํ้ารูปคล้ายเรือครึ่งท่อน มีด้ามถือ ผูกแขวนเข้า กับขาหยั่ง แล้วจับด้ามให้พุ้ยนํ้าเข้าออกตามต้องการ, ชงโลง
ซอ ตอไม้ไผ่ค่อนข้างยาวที่เหลืออยู่ที่กอ.
ซองเทียน ภาชนะใส่เทียน สานด้วยหวายเป็นรูปทรงกระบอก
ซองพลู ภาชนะสำหรับใส่ใบพลูทำด้วยเงินและทองเหลือง
ซะบู ไม้คานทำด้วยแก่นไม้ สำหรับหาบกระสอบข้าวหรือหาบสัมภาระ
ซ้า ภาชนะจักสานประเภทตะกร้ามีหูหิ้ว สานด้วยไม่ไผ่และหวาย
ซาง ชื่อไผ่หลายชนิดในสกุล Dendrocalamus วงศ์ Gramineae ชนิดปล้องเล็กบางยาวใช้เป็นลํากล้องเป่าลูกดอก หรือลูกดินเหนียว ปั้นกลมเป็นต้น เรียกว่า ไม้ซาง
ซุย มีดชนิดหนึ่ง รูปเรียวแหลม
ไซ เครื่องสานสําหรับดักปลา มีหลายชนิด เช่น ไซมาน ไซตั้ง ไซนอน
ฌะ ภาชนะจักรสานเป็นตะกร้า มีหลายชนิด
เฌอบาย ภาชนะจักรสานเป็นเฌอหรือกระเชอที่สานด้วยตอกไม้ไผ่
ดอกไม้จันทน์ เนื้อไม้จันทน์เป็นต้นที่ไสเป็นแถบบางนํามาประดิษฐ์เป็นช่อขนาดเล็ก ใช้ในการเผาศพ
ดั้ง เรียกเสาเรือนเครื่องสับที่ตั้งอยู่กึ่งกลางบนหลังรอดขึ้นไปรับ อกไก่ว่า เสาดั้ง
ดาบ มีดยาวปลายแหลมชนิดหนึ่ง สันแอ่นปลายงอนเล็กน้อย มักใช้เป็น อาวุธสําหรับฟันแทง
ดินนวล ดินประสมอย่างหนึ่ง ใช้ในการหล่อ; ผงขาว ๆ ที่ใช้ในการ เคลือบสิ่งของเช่นกระเบื้องมุงหลังคา
ดินเผา เครื่องดินเผานั้นมีอยู่สองลักษณะคือเครื่องดินเผาชนิดไม่เคลือบและเคลือบ
ดุมเกวียน ไม้แข็งเช่นเต็งรังทําเป็นปลอกตอกอัดไว้ใน รูดุมเกวียน สําหรับสอดเพลาเข้าในรูนั้นป้องกันมิให้รูดุมคราก.
เดียว เครื่องมือเกี่ยวข้าวประเภทเคียว
เดือย แกนที่ยื่นออกมาสําหรับเอาของอื่นสวม เช่น เดือยโม่ เดือยหัวเสา
ต้นดอก เครื่องสักการะอย่างหนึ่ง ใช้ไม้ทำเป็นโครงแล้วนำใบไม้
ตบมอด ภาชนะสำหรับเลี้ยงตัวไหมของชาวไทย เพื่อป้องกันมดและแมลง
ตรอง ที่กรองของเหลว สานด้วยตอกถี่ๆ เป็นรูปกรวย
ตลกบาตร ถุงบาตรที่มีสายคล้องบ่า (สายโยก), ถลกบาตร ตลับ
ตวัก เครื่องใช้ตักแกงหรือตักข้าว ทําด้วยกะลามะพร้าว มีด้ามถือ, กระจ่า จวัก หรือ จ่า
ตอก ไม้ไผ่ที่จักเป็นเส้นแบนยาว ขนาดหนาหรือบางตามต้องการ ใช้สําหรับผูกมัดหรือสานสิ่งต่างๆ; ชื่อมีดชนิดหนึ่ง ปลายแหลมคล้าย มีดเหน็บ แต่สั้นกว่า ด้ามยาวและงอน
ตะกรน อุปกรณ์ของเครื่องทอผ้า ใช้อย่างกระสวย แต่เป็นกระบอกมีหลอดด้าย อยู่ข้างใน.
ตะกร้อ ลูกกลมสานด้วยหวายเป็นต้นเป็นตาๆ สําหรับเตะ; เครื่องมือสอยผลไม้ มีด้ามยาว ทําด้วยไม้หวาย หรือไม้ไผ่เป็นซี่ รูปป่องยาวรีคล้ายกาบปลี ตรงปากมี ฟันสําหรับสอย; เครื่องสานยาชัน รูปคล้ายปุ้งกี๋ แต่เล็กกว่า ใช้วิดนํ้าเรือ, กร้อ
ตะกร้า ภาชนะสานโปร่งสําหรับใส่สิ่งของ มีรูปต่างๆ บางชนิดมีหูหิ้ว บางชนิดไม่มี.
ตะกอ ส่วนของเครื่องทอผ้าทําด้วยเส้นด้ายร้อยกับกรอบไม้ สําหรับแยกเส้นด้ายยืนให้ ขึ้นลงเพื่อให้ขัดกับเส้นด้ายพุ่ง.
ตะเกียง เครื่องใช้สําหรับตามไฟ มีรูปต่างๆ บางชนิดมีหลอดบังลม, ลักษณนาม ว่า ดวง.
ตะแกรง ภาชนะสานรูปแบน ขอบกลม มีตาห่าง สําหรับร่อนสิ่งของหรือช้อน กุ้งปลาเป็นต้น, โดยปริยายใช้เรียกสิ่งอื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ตะแกรงหน้าหัวรถจักร.
ตะไกร เครื่องมือสําหรับตัดโดยใช้หนีบ มี 2 ขา, ลักษณนามว่า เล่ม, เขียนเป็น กรรไกร หรือ กรรไตร
ตะคัน เครื่องปั้นดินเผารูปคล้ายจาน สําหรับวางเทียนอบ หรือเผากํายานเมื่อเวลา อบนํ้าทํานํ้าอบไทยเป็นต้น หรือใช้ใส่นํ้ามันตามไฟต่างตะเกียง
ตะเฆ่ เครื่องลากเข็นของหนัก รูปเตี้ยๆ มีล้อ
ตะบัน เครื่องตำหมากของคนแก่ มีรูปคล้ายกระบอก โดยมากทำด้วยทองเหลือง มีลูกตะบันสำหรับตำ และมีดากอุดก้น
ตะหลิว เครื่องมือทำด้วยเหล็ก ใช้แซะหรือตักของที่ทอดหรือผัดในกระทะ
ตาข่าย เครื่องดักสัตว์มีนกหรือกระต่ายเป็นต้น ถักเป็นตาร่างแห, เรียกลวดหรือด้ายที่ถักเป็นตาๆ อย่างข่ายว่า ลวดตาข่าย
ตาลปัตร พัดใบตาล มีด้ามยาว สำหรับพระใช้ในพิธีกรรม เช่น ในเวลาให้ศีล ต่อมาอนุโลมเรียกพัดที่ทำด้วยผ้าหรือไหมซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้นว่า ตาลปัตรด้วย
ติ้ว ไม้ซี่เล็กๆ ไว้สำหรับเป็นคะแนน, สำหรับเสี่ยงทาย หรือสำหรับใช้แทนสลาก
ตีแตะ ขัดแตะโดยเอาไม้ไผ่ผ่าให้เป็นซีกๆ แล้วขัดและตีให้แน่น ในการทำรั้วบ้านและฝาเรือน
แตรง แตรที่มีลักษณะปลายบานและโค้งงอนอย่างเขาควาย ใช้ในงานพระราชพิธี
ทรง ใช้ในงานช่างและหัตถกรรมใช้เรียกรูปร่างของสิ่งก่อสร้าง
ทวน เครื่องมือช่างทองทําด้วยไม้ ปลายข้างหนึ่งติดครั่งสําหรับ ยึดรูปพรรณอีกข้างหนึ่งสําหรับยึดกับฐานที่ทําไว้โดยเฉพาะเพื่อ นั่งสลักได้สะดวก
ทวย ไม้เท้าแขนที่รับเต้า บางทีทําเป็นรูปนาคเรียกว่า คันทวย
ทวารบาล ที่บานประตูมีภาพทวารบาล ซึ่งวาดโดยช่างฝีมือพื้นบ้าน
ทองอังกฤษ เรียกโลหะชนิดหนึ่งเป็นแผ่นบางๆ สีคล้ายทองคํา หรือสีอื่นๆ ก็มี ใช้สลักหรือปรุเป็นลายประดับเครื่องศพเป็นต้น.
ทะนน เรียกหม้อดินขนาดใหญ่ชนิดหนึ่งมีขีดเป็นรอยโดยรอบ สําหรับ ใส่นํ้า นํ้าตาลโตนด เป็นต้น ว่า หม้อทะนน
ทะนาน เครื่องตวงอย่างหนึ่งทําด้วยกะโหลกมะพร้าวเป็นต้น; ชื่อมาตรา ตวงโบราณ 20 ทะนาน เป็น 1 ถัง
เทียน เครื่องตามไฟที่ฟั่นที่หล่อด้วยขี้ผึ้งหรือไขเป็นต้น มีไส้อยู่ตรง ใจกลาง, ลักษณนามว่า เล่ม
แทงหยวก สลักกาบกล้วยให้เป็นลวดลายประดับเชิงตะกอน ในการเผาศพเป็นต้น.
โทน ชื่อกลองประเภทหนึ่งสําหรับตีขัดจังหวะ ขึงหนังด้านเดียว คล้ายกลองยาว
ธนู ชื่ออาวุธชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยคันธนูซึ่งมีสายธนูสำหรับน้าวยิง และ ลูกธนูที่มีปลายแหลม
ธรรมาสน์ ที่สําหรับพระภิกษุสามเณรนั่งแสดงธรรม
ธูป เครื่องหอมชนิดหนึ่งมีแกนทําด้วยก้านไม้ไผ่เล็กๆ เป็นต้น ย้อมสีแดง พอกด้วยผงไม้หอม, มักใช้จุดคู่กับเทียน, ลักษณนามว่า ดอก.
นกหวีด เครื่องเป่าทำให้เกิดเสียงดัง แต่เดิมทำด้วยเครื่องปั้นดินเผาเป็นรูปนกหวีด มีรูสำหรับเป่าให้ลมผ่าน
นม รูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนที่อยู่ตรงกลางอกเลาของบานประตู บานหน้าต่าง หรืออยู่ตรงกลางอกของใบเสมา
นมไม้ ไม้ที่ทำเป็นรูปนมสองเต้าใช้สำหรับนวดหลังแก้ปวดเมื่อย หรือใช้นวดกับไม้หมอนวด
นาก โลหะผสมระหว่างทองคำ เงิน ทองแดง ใช้ทำเป็นรูปพรรณต่างๆ
นาค สัตว์ในนิยายโบราณ รูปร่างคล้ายงูแต่หัวมีหงอน ช่างไทยนิยมนำมาดัดแปรงเป็นส่วนของสถาปัตยกรรมไทย
นาง เครื่องมือจับปลาตามแหล่งน้ำตื้นๆ เช่น หนองน้ำ คู คลอง สานด้วยไม้ไผ่หรือหวาย
นางรำ เบ็ดตกปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง ไม่ต้องใช้เหยื่อล่อ ตัวเบ็ดจะผูกติดไว้ที่ปลายเส้นหวาย โดยมีเหยื่อเทียบขนาดเล็กๆ
นางเลิ้งโอ่ง หรือหม้อดินเผาขนาดใหญ่สำหรับใส่น้ำ
น้ำคอก กระบอกสำหรับใส่ดื่มน้ำ ทำด้วยลำไม้ไผ่ตัดให้เหลือข้อไว้ ด้านบนเจาะรูสำหรับกรอกน้ำ ทำจุกปิดฝาเพื่อไม่ให้น้ำหก มักทำหูสำหรับสะพาย
น้ำต้น ภาชนะสำหรับใส่น้ำดื่ม ทำด้วยดินเผา รูปร่างคล้ายน้ำเต้า
น้ำเต้า เปลือกผลไม้ที่แห้องแข็ง สีที่ใช้สำหรับวาดรูปโบราณทำจากดิน หิน เขม่า ต้องผสมน้ำ กาว ก่อนที่จะนำไปวาด
น้ำทุ้ง ภาชนะสำหรับตักน้ำ สานด้วยใบไผ่ ยาด้วยชัน รูปร่างคล้ายกรวย หรือมะนาวตัด
น้ำมันยาง น้ำมันที่ได้จากกต้นยาง มีลักษณะเหนียวข้น ใช้ทาเคลือบเครื่องจักสานหรือสิ่งของเครื่องใช้ให้คงทน
น้ำยา สีที่ช่างเขียนไทยนำมาเตรียมไว้วาดภาพ เช่น น้ำฝุ่นขาว ฝุ่นเหลือง มาบดแล้วผสมกาว ทิ้งไว้ในกะลา
น้ำรัก ยางที่ได้จากต้นรัก ช่างไทยนำมาผสมเขม่าให้เป็นสีดำ ใช้ลงพื้นสิ่งของต่างๆ ก่อนปิดทอง
บด เรื่อต่อชนิดหนึ่ง รูปร่างเพรียว หัวท้ายเรียว ใช้กรรเชียงหรือหรือพาย
บม ภาชนะสรงข้าวเหนียวนึ่งให้ไอร้อนระเหยออก ก่อนนำไปใส่กระติ๊บ
บราลี เครื่องตกแต่งสีสันคาปราสาท ทำเป็นยอดแหลมอย่างเสาหัวเม็ดทรงมัน เรียงไปตามสันอกไก่ สันหลังคา เดิมคงทำไว้เพื่อป้องกันแร้งเกาะหลังคา
บลานอ เรือนที่มีหลังคาแบบปั้นหยา แต่มีจั่วอย่างน้อย3 จั่ว คือ จั่วเรือนแฝดและจั่วขนาดเล็กของเฉลียวด้านหน้า
บ่วง ครื่องดักสัตว์ทำด้วยเชือกเป็นวง รูดเข้าออกได้
บอกฝากนาค กระบอกตาลที่ทำเป็ฯคู่ ใช้รองน้ำตาลโตนด เมื่อเต็มกระบวยน้ำตาลจะไหลไปอีกกระบอกหนึ่ง
บองหยอง ลายจักร ลายจักรสานชนิดหนึ่ง มักสานด้วยกระด้ง
บะวง ตะกร้าหวาย รูปสี่เหลียม สานซ้อนกันเป็นชั้นเหมือนปิ่นโต
บั้ง กระบอกไม้มีฝาปิด ใช่ใส่สิ่งต่างๆ และเรียกชื่อตามของที่ใช้ เช่น ใส่เกลือเรียกบั้งเกลือ
บังใบ การเชื่อมหรือประสานโลหะให้ติดกันด้วยตะกั่วและน้ำประสานทอง
บันได สิ่งที่ทำเป็นชั้นๆ สำหรับก้าวขึ้น ทำด้วยวัสดุหลายชนิด
บัว ลวดลายหรือส่วนประกอบสถาปัตยกรรมไทยที่ช่างอาจได้รับแบบอย่างมาจากดอกบัว
บาแดะ มีดพกปลายแหลม ด้ามงอเกน้อย มีฝัก ด้ามและฝักทำด้วยไม้
บาโถ ภาชนะสำหรับใส่กระจาด สานทึบ ทรงกระบอกเตี้ยๆ ปากกลม
บิฐ ที่นั่งทำด้วยไม้มีขาเตี้ยๆ สี่ขา ที่นั่งเป็นรูปสี่เหลี่ยม ไม่มีพนัก
บิดเหลา เครื่องเจาะชนนิดหนึ่ง ทำด้วยไม้เป็นเกรียว มีที่จับรูดขึ้น ลง
บุง ภาชนะใส่เมล็ดพืช หรือเสื้อผ้า สานด้วยๆไม้ๆไผ่ เคลือบด้วยรัก
บุ้งกี๋ เครื่องจักรสานชนิดหนึ่ง สานหยาบๆ ใช้เป็นภาชนะสำหรับโกยสิ่งต่างๆ เช่น ดิน หิน
บุษบก ที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ฐานสูง มี่เสาสี่เสา หลลังคาเป็นเครื่องยอดภายในโปร่ง
เบ็ด เครื่องตกปลา ตกกุ้ง ปลายเป็นขอ มักมีเงี่ยงมีหลายขนาดขึ้นอยู่กับสิ่งที่จะตก
เบ้า ดิน หรือโลหะรูปร่างคล้ายถ้วย ใช้หลอมโลหะ เช่น เงิน หรือทอง
เบียน กระด้งสำหรับฝัดข้าวหรือตากเมล็ดพืช
ใบระกา ไม้หรือปูนปั้นที่ทำเป็นครีบๆ เรียงกันบนตัวลำยองหรือตัวนาค ระหว่างช่อฟ้ากับหางหงส์ของโบสถ์
ปกหลก เครื่องแขวนคอวัว ควาย ทำด้วยไม้ไผ่ ตรงกลางเป็นโพรง
ประคด เครื่องคาดเอวของพระสงฆ์
ประเจียด ผ้าผืนขนาดเล็กๆ ลงเลขยนต์ใช้สำหรับป้องกันอันตราย ใช้ผูกคอหรือต้นแขน
ประดาก ธงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ใช้ห้อย หรือแขวนตางแนวตั้งอย่างที่ภาคเหนือเรียก ทุงหรือตุง
ประแดะ เครื่องมือช่างทอง รูปร่างคล้ายค้อนขนาดเล็ก หัวเป็นสี่เหลี่ยมทำด้วยเขาสัตว์
ประทีป เครื่องให้แสงสว่างจากเปลวไฟ เช่น เทียน ตะเกียง
ประทุน หลังคาเรือ เกวียน รูปร่างโค้งคลุ้ม สานด้วยไม้ไผ่
ปลาตะเพียนใบลาน เครื่องจักสานใบลานรูปปลาตะเพียนสำหรับแขวนหน้าบ้านหรือแปลเด็ก
ปะกน ไม้ลูกสกัดฝาเรือนสำหรับเอากระดานกรุเป็นรูปสี่เหลี่ยมต่อกัน
ปะรำ สิ่งปลูกสร้าง มีเสา หลังคาแบนคาดด้วยผ้าหรือใบไม้
ปะหนัน เตยทะเลชนิดหนึ่ง ขอบใบและกาบหุ้มดอกมีหนาม มักนำมาทำเป็นเครื่องจักรสาน
ปะหัง ที่ใส่หญ้าให้วัวกิน ทำด้วยไม้ไผ่สานเป็นวงเตี้ยๆ บนพื้นดิน
ปักเป้า ว่าวชนิดหนึ่ง รูปร่างสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน มีหางยาว นิยมเล่นแข่งกับว่าวจุฬา
ปั้น การทำสิ่งที่อ่อนนุ่ม เช่น ดินเหนียว หรือทรงกระบอก มีพวยอย่างกา ทำด้วยดินเผา
ปั้นลม แผ่นไม้ที่พาดบนหัวแปลเพื่อปิดหลังคาด้านสกัดเรือนไทยกันลมตีเครื่องมุง
ปั้นหยา เรือนที่มีสันหลังคาเอนเข้าหากันเป็นห้าสัน
ปั่นฝ้าย การปั้นฝ้ายด้วยไนหรือหลาให้เป็นเส้น
ปากกบ มุมปากไม้ที่ประกบกันเป็นมุมฉาก เพื่อทำเป็นขอบหรือกรอบต่างๆ
ปากไปล่ ชามชนิดหนึ่ง ก้นเล็ก คล้าบงอบ
ปาเต๊ะ ผ้าที่ทำลวดลายด้วยการเขียนขี้ผึ้ง แล้วย้อมเรียกว่า ผ้าบาติก
ป้าน ภาชนะดินเผาสำหรับชงชา ทรงกลม หรือทรงกระบอก มีฝา หู และพวยเหมือนกา
ปี่ เครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่า ทำด้วยไม้เจาะเป็นรู สำหรับเปิด ปิดด้วยนิ้วเวลาเป่า
ปีบ ภาชนะรูปสี่เหลี่ยมทำด้วยสังกะสี ใช้ใส่น้ำตาลโตนดเรียกว่า น้ำตาลปีบ
เป้ง เครื่องช่างน้ำหนักที่ใช้ถ่วงตราชู ทำด้วยทองเหลืองหรือเหล็กเป็นรูปหงส์หรืออื่นๆ มีขนาดต่างกัน
เปล เครื่องสำหรับนอน ใช้แกว่งไกวไปมา ทำด้วยผ้า หรือหวาย
แป้น กระดานรูปกลมมีแกนหมุนได้ ใช้เป็นหม้อ โอ่ง อ่าง กระถาง เครื่องปั้นดินเผา
แปม ภาชนะสานด้วยไม้ไผ่และหวาย ใช้สำหรับใส่ข้าวของติดตัวเดินทาง หรือใส่ผัก หญ้า หน่อไม้
โปง เครื่องตีเป็นสัญลักษณ์บอกเหตุ ทำด้วยไม้หรือโลหะ
โปงลาง เครื่องดนตรีของอีสานชนิดหนึ่ง ทำด้วยท่อนไม้กลมๆ ผูกเรียกต่อกันคล้ายระนาด
โปงเหล็ก โปงหล่อด้วยเหล็ก รูปร่างคล้ายโปงไม้แต่มีขนาดเล็กกว่า ใช้แวนคอวัวหรือควาย
ผ้าช่อคอ ผ้าแพรหรือสไบบางๆ สีต่างๆ กัน ขนาดกว้าง 6-8 นิ้ว ยาวประมาณ 4 ศอก ปลายทั้งสองทั้ง เย็บเม้มขิบ
ผ้าเช็ดปาก ผ้าสำหรับเช็ดน้ำหมาก
ผ้าดำ ผ้าฝ้ายย้อมด้วยยางมะเกลือ
ผ้าดาบ ผ้าฝ้ายที่ทอโดยไม่ฟอกสี จึงเป็นสีธีรรมชาติสีผ้าขาว หรือ สีนวล
ผ้าถุง ผ้าถุงของผู้หญิง เย็บริมด้านติดกันเป็นถึง
ผ้าเบี่ยง ผ้าคลุมไหล่คล้ายผ้าสไบ แต่เดิมนิยมใช้กันในหมู่ผู้หญิงเชื้อสายไทยวน ไทพวน ไทลาว
ผ้าปัก ผ้าที่ทอแล้วนำมาเข้าสะดึงปักเป็นลวดลาย
ผ้าปูม ผ้ามัดหมี่แบบเขมร
ผ้าพื้น ผ้าที่ทอด้วย ผ้าย หรือไหม ไม่มีลวดลาย
เผาดาด วิธีปั้นเครื่องปั้นดินเผากลางแจ้ง โดยวางเครื่องปั้นดินเผาบนลานดิน แล้วสุมด้วยฟางข้าว กิ่งไม้แห้ง ทางมะพร้าว จุดไฟเผาจนกว่า เครื่องปั้นดินเผามีสีอิฐสวยงาม
ฟั่น กระทำสิ่งที่เป็นเส้นให้เข้าเกรียวหรือบิดไปในทางเดียวกัน
ฟาก ลำไม้ไผ่ที่ทำออกมาเป็นแผ่นเดียวกัน มักใช้ไผ่ที่มีขนาดใหญ่ เช่น ไผ่ตง ไผ่สีสุก ทุบหรือสับแล้วแผ่ออก
มวย หวดสำหรับนึ่งข้าวเหนียวสานด้วยตอกไม่ไผ่ ปากกลม ก้นสอบใช้นึ่งข้าวเหนียว ตั้งบนหม้อ
มอง เครื่องมือจับสัตว์น้ำเป็นตาข่ายเช่นเดียวกันกับอวน มี 3 ชนิด คือ มองซัด ใช้เรือลากจับปลาในน้ำลึก มองปลิว ใช้เรือลากจับปลาในน้ำตื้น มองยัง ใช้ขึงไว้กับที่เหมือนตาข่าย
มอน แป้นสำหรับปั้นเครื่องปั้นดินเผา ทำด้วยไม้ รูปกรายคล้ายลูกข่าง มีแกนฝังลงในดิน หมุนด้วยมือหรือเท้าถีบ ใช้เป็นแป้นสำหรับปั้นหม้อ โอ่ง อ่าง
ม่อฮ่อม เสื้อคอกลม แขนสั้น ผ่าอกตลอดนิยมใช้กันท่าวไปในภาคเหนือ
มาลัย ดอกไม้ที่นำมาร้อยเป็นพวก เช่นดอกมะลิ ดอกจำปา ดอกจำปี และดอกรัก ใช้เป็นเครื่องไหว้หรือบูชา มีรูปแบบต่างๆ กัน
ม้าเวียน ไม้ไผ่สำหรับฝึกให้เด็กเดิน ทำด้วยกระบอกไม้ไผ่ ขนาดสูงพอให้เด็กเกาะได้ มีไม้สอดให้จับ
มีด เครื่องมือใช้ฟัน ผ่า ตัด สับ หรือเหลา มักทำด้วยเหล็กตีเป็นรูปร่างต่างๆ เรียกตามรูปร่างหรือการใช้สอย
แม่เตาไฟ กระบะไม้ไผ่สี่เหลี่ยมอัดด้วยดิน สำหรับตั้งไฟ ป้องกันไม่ให้ไฟไหม้พื้น
โม่ เครื่องบดสิ่งต่างๆ เช่นเมล็ดพืช ข้าวสาร ทำด้วยหินจำหลักเป็นทรงกระบอก มีรูตรงกลางสำหรับสวมแกนโม่ แบละมีรูใกล้ขอบสำหรับหยอดสิ่งที่จะโม่ลงไป
ไม้คมแฝก อาวุธสำหรับป้องกันตัว ทำด้วยไม้เนื้อแข็ง ท่อนยาวมีเหลี่ยม ใช้ถือติดตัว
ไม้ตาม ไม้แบนๆ สำหรับตีหม้อให้ได้รูป หลังจากขึ้นรูปไว้แล้ว
ไม้ฟาดข้าว ไม้สำหรับคีบมัดข้าว ให้เมล็ดข้าวหลุดออกจากรวง ทำด้วยไม้รวกขนาดย่อมกว่าข้อมือเล็กน้อย ยาวประมาณศอกเศษ
ยอ เครื่องจับปลาชนิดหนึ่งเป็นรูปร่างแหสี่เหลี่ยม มุมทั้งสี่ผูกติดกันกับคันสำหรับยก ถ้าเป็นยอขนาดเล็กที่ยกได้คนเดียวจะใช้ไม้ไผ่ผ่าซีกไขว้กันเป็นรูปกากบาท ปลายทั้งสองผูกติดกับมุมร่างแห ส่วนตรงกลางจะผูกติดกับไม้คานสำหรับยก
ย่านลิเภา เฟิร์นเถาชนิดหนึ่ง ขึ้นในกลุ่มดินปนทราย อากาศชื้น ลักษณะเป็นเถาเลื้อย ใบเล็กยาว ริมใบเป็นหยักๆ มีมากในภาคใต้
ยุ้ง อาคารสำหรับเก็บข้าวเปลือกและเมล็ดพืช เช่น เมล็ดถั่ว ข้าวโพด ส่วนมากสร้างเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม ฝาทึบ มีประตูทางเข้าด้านหนึ่งยกสูงขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำ ความชื้น สัตว์ และแมลงที่อาจทำความเสียหาย
รง สีเหลืองที่ได้จากยางไม้ มี 2 ชนิด คือสีเหลืองจากยางมะพูดมีสีเหลืองอมเขียว เรียก รงกา อีกชนิดหนึ่งได้จากยางต้นรงมีสีเหลืองเรียก รง
รดน้ำ วิธีสร้างลาดลายอย่างหนึ่ง ใช้หรดาล เขียนลงในพื้นที่ลงรักไว้ เพื่อไม่ให้ทองติด เมื่อปิดทองแล้ว นิยมใช้ตกแต่งตู้พระธรรม บานประตู บานหน้าต่างโบสถ์ วิหาร เป็นต้น
ร่ม เครื่องสำหรับกลางกันแดดกันฝน เดิมเคลือบด้วยไม้บุด้วยกระดาแล้วเคลือบขี้ผึ้ง ต่อมาทำด้วยผ้า หรือวัสดุ
รอก เครื่องใช้สำหรับประกอบกี่ทอผ้า ทำด้วยไม้มีล้อตรงกลาง ล้อทำเป็นร่องสำหรับคล้องเชือก
รอม ภาชนะสานได้ไม้ไผ่ ทรงกระบอก กันโปร่ง ใช้นึ่งเปลือกข่อยก่อนนำไปทุบเป็นเยื่อข่อย อีกชนิดหนึ่งไม่มีก้น ใส่ไว้ในกระทะเคี่ยวน้ำตาล
ระนาด เครื่องตีในวงปี่พาทย์ ทำด้วยไม้เป็นรางยาว มีลูกระนาดทำด้วยไม้ไผ่ ไม้จริงทองเหลือง หรือเหล็ก ยาวลดหลั่นกันตามเสียง ร้อยด้วยเชือกแล้วแขวนเป็นราวสองข้างแขวนอยู่เหนือราง
ระวิง เครื่องสาวไหมหรือด้ายออกจากเข็ดเป็นเส้น ทำด้วยไม้ไผ่เหลาเป็นซี่ๆ
ระหัด เครื่องวิดน้ำชนิดหนึ่ง ทำด้วยไม้รางในโครงสี่เหลี่ยมยาว
รัก ต้นไม้ขนาดใหญ่ ยางใช้ลงพื้น หรือทาสิ่งต่างๆ เรียกว่า น้ำรัก หากผสมเขม่า หรือสีดำใช้ลงพื้นสำหรับทำลายรดน้ำหรือเคลือบเครื่องจักรสานเป็นเครื่องเขิน
รังผึ้ง ดินเผาหรือแผ่นกลมๆ เจาะเป็นรูๆ ใช้รับถ่านหรือฟืนในเตาอังโล่เพื่อให้ลมผ่านได้ ช่วยในการลุกไหม้
ร่างร้าน สิ่งที่ทำด้วยไม้ไผ่หรือโลหะเป็นเครื่องขึ้นไปสำหรับนั่งหรือปีนขึ้นไปทำงานก่อสร้างในที่สูง
ร่างแห เส้นด้ายที่ถักเป็นตาถี่ๆ หรือห่างๆ ของแห
เรือก ไม้ไผ่ที่ผ่าออกเป็นซี่ๆ เหลาให้เรียบแล้วถักด้วยหวายสำหรับปูพื้น หรือถักหยาบๆ ใช้เป็นรั้ว
เรือพระ เรือ รถ หรือล้อเลื่อนที่วางบาบกประดิษฐานพระพุทธรูปเพื่อใช้ลากในงานออกพรรษา
แร่ง เครื่องร่อนของละเอียด เช่น แป้ง ทำด้วยไม้หรือสังกะสีเป็นขอบทรงกระบอกสูงประมาณ 3 นิ้ว เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 นิ้ว
แร้ว กับดักสัตว์ชนิดหนึ่งมักใช้ดักสัตว์ปีก เช่น นก ไก่ป่า ทำด้วยไม้ไผ่เป็นคันดีดให้บ่วงรัดขา
ฤๅษีดัดตน รูปหล่อด้วยโลหะหรือปั้นด้วยปูนเพื่อแสดงการบริหารร่างกายแก้โรคภัยไข้เจ็บ
ลงพื้น การใช้วัสดุ เช่น ดินสอพอง รักสมุก ฝุ่นขาว ฉาบลงบนพื้นวัสดุที่จะทำเป็นงานหัตถกรรมหรืองานศิลปกรรมก่อนการเขียนลายหรือวาดภาพ เช่น ลงรักสมุกสำหรับลายรดน้ำ
ลงยา การใช้สิ่งที่เกิดจากการผสมกันของสารเคมีที่เรียก ลงยา เคลือบลงบนทอง เพื่อทำให้เกิดสีเรียกลงยาสี แต่เดิมลงได้แค่สีแดง และสีเขียว
ลงรัก การใช้น้ำรักทาลงบนวัสดุก่อนปิดทองหรือเขียนลวดลาย เช่น ลงรักสมุก
ล่วม เครื่องใส่หมากพลู ยาเส้น ทำด้วยผ้า ใช่ยาเส้น เรียกว่า ล่ามยา
ล่องชาด การทายาชาดลงในช่องระหว่างลายที่มีทองปิด เช่น ทาชาดลงในร่องลายที่แกะสลัก
ล่องถุน ร่องระหว่างพื้นเรือนไทยภาคกลางจนถึงพื้นดิน
ลอบนอน เครื่องจักสานสำหรับดักจับปลา สานด้วยไม่ไผ่เป็นซี่เล็กๆ ถักติดกับโครงเป็นรูปทรงกระบอก
ลอบยืน ลอบชนิดหนึ่งทำด้วยไม้ไผ่เหลาเป็นซี่ๆ ถักติดกับโครงไม้ไผ่ รูปร่างคล้ายขวดมีขนาดใหญ่ ด้านหน้ามีงานเป็นช่องให้ปลาเข้า
ละแมะ เครื่องมือสำหรับถากไม้เพื่อโกลนเรือ รูปร่างคล้ายจอบแต่ขนาดเล็กกว่า
ลัน เครื่องดักปลาไหลและและปลาขนาดเล็ก ที่ว่ายตามผิวดิน ทำด้วยไม้ไผ่ยาวประมาณ 2- 3 ปล้อง ทะลวงปล้องข้ออกให้ทะลุถึงกัน เว้นข้อปลายสุดไว้
ลาย รูปที่เกิดจากการเขียน วาด แกะสลัก สาน ถัก ทอ ต่อเนื่องกันให้เป็นรูปภาพหรือรูปทรงต่างๆ เฉพาะการวาดนั้นดัดแปลงจากธรรมชาติ
ลำเจียก พรรณไม้ชนิดหนึ่ง ขอบใบและกลีบดอกมีหนาม ชาวปักษ์ใต้ใช้นำไปสานเป็นเครื่องจักสาน บางทีเรียก เตยทะเลหรือปาหนัน
ลูกกระแอม ลายที่ทำเป็นรูปร่างคล้ายตาอ้อยหรือข้าวหลามตัดเพื่อแทรกช่องระหว่างลาย ไม่ใช้มีช่อง หรือลวดลายมากเกินไป
ลูกบวบ ลำไม้ไผ่ที่มัดรวมกันเป็นแพ เพื่อรับน้ำหนักสิ่งที่ต้องการให้ลอยน้ำ เช่น โรงเรือนที่อยู่อาศัย
ลูกประสัก ไม้เหลากลมๆ ใช้ตอกต่างตะปู เช่น ดอกตรึงกงเรือ เมื่อตอกแล้วมักปาดให้เสมอไม้ข้างเรือหรือไม้ท้องเรือ
ลูกปลา กระดาษที่ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ รูปกลม รูปข้าวหลามตัด หรือรูปอื่นๆ
ลูกปะกน เป็นไม้สกัดของฝาเรือนสำหรับลูกกระดานให้เป็นแผงต่อเนื่องกันเป็นฝากระดานปะกน
ลูกปัด หินหรือแก้วที่เจียระไนเป็นรูปทรงต่างๆแล้วเจาะรูตรงกลาง ใช้ร้อยเชือกเป็นเครื่องประดับ
ลูกฟัก ลวดลาที่มีรูปทรงคล้ายผลฟัก เช่น แผ่นกระดาษสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมเหมือนลูกฟัก
ลูกโยน เครื่องไล่นกทำด้วยดินเหนียวปั้นกลมๆ เสียบด้วยต้นหญ้าเป็นหางเพื่อโยนได้ไกล
วงกบ ไม้กรอบบานประตูหน้าต่าง มักเป็นรอบสี่เหลี่ยมเพื่อยืด บานประตูให้ปิดเปิดได้
ว่าว เครื่องเล่นชนิดหนึ่ง ใช้ไม้ที่มีลักษณะเบาหรือไม้ไผ่เป็นโครงแล้วกรุกระดาษหรือผ้าบางๆ มีสายเชือกหรือป่านยึดไว้แล้วชักขึ้นไปในอากาศมีรูปร่างและชนิดแตกต่างกัน เช่น ว่าวปักเป้า ว่าจุฬา
วี พัดขนาดใหญ่สานด้วยไม้ไผ่กลม มีขอบ ใช้โบกเมล็ดข้าวหรือพืชออกจากกัน
สมุก ถ่านทําจากใบตองแห้งใบหญ้าคาเป็นต้นป่นให้เป็น ผงประสมกับรักนํ้าเกลี้ยง สําหรับทารองพื้นบนสิ่งต่าง ๆ เช่นบาน ประตูหน้าต่างโบสถ์วิหารก่อนที่จะเขียนลายรดนํ้าปิดทอง.
สว่าน เครื่องมือช่างไม้ปลายเป็นเกลียวแหลมสําหรับเจาะไช มี 2 ชนิด คือ ชนิดหนึ่งเป็นเหล็กปลายเป็นเกลียวแหลมในตัวสําหรับ เจาะไชสิ่งเล็ก ๆ หรือบาง ๆ อีกชนิดหนึ่งมีรูปร่างคล้ายลูกดาล 2 อัน ต่อกัน ปลายด้านบนมีแป้นสําหรับมือกด ตรงกลางมีที่สําหรับมือจับ หมุนให้ดอกสว่านซึ่งสวมติดกับปลายอีกด้านหนึ่งเจาะไชสิ่งที่ค่อนข้าง ใหญ่หน้าหนา.
สวิง เครื่องช้อนปลาชนิดหนึ่ง ถักเป็นร่างแห ลักษณะเป็นถุง มักใช้ไม้หรือหวายทําเป็นขอบปาก.
สะโตก ภาชนะทําด้วยไม้กลึง ไม้ไผ่สาน หวาย หรืออย่าง เครื่องเขิน ส่วนบนลักษณะคล้ายถาด ส่วนล่างเป็นตีนลักษณะเป็น วงแหวนมีขนาดเล็กกว่าถาดส่วนบน โดยมีซี่ไม้ลูกมะหวดประมาณ 6 ซี่ปักที่ตีนค้ำถาดไว้ ใช้สำหรับใส่อาหารเป็นต้น, โตก หรือ สะโตก ก็ว่า, ลักษณนามว่า ใบ หรือ ลูก.
สัด ภาชนะรูปทรงกระบอก ทําด้วยไม้หรือสานด้วยไม้ไผ่ ใช้ตวงข้าว
สัตภัณฑ์ ชื่อเชิงเทียน ทำเป็นแผงรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ติดไม้กลึงเป็นเชิงเทียน ๗ เชิง กรอบมักทำเป็นรูปพญานาคเลื้อยลงมา คล้ายกรอบหน้าบัน
สัมฤทธิ์ โลหะเจือชนิดหนึ่ง ส่วนใหญ่ประกอบด้วยทองแดงกับดีบุก
สาก เครื่องมือสําหรับตําอย่างหนึ่ง, คู่กับ ครก
สากกะเบือ สากไม้สําหรับตําข้าวเบือหรือนํ้าพริก เป็นต้น ใช้คู่กับ ครกกะเบือ
สาแหรก เครื่องใส่ของสําหรับหิ้วหรือหาบเป็นต้น ปรกติ ทําด้วยหวาย มี 4 สาย ตอนบนทําเป็นหูสําหรับหิ้วหรือสอด ไม้คาน ตอนล่างขัดกันเป็นสี่เหลี่ยมสําหรับวางกระจาด
สำปั้น ชื่อเรือต่อเสริมกราบชนิดหนึ่ง เดิมทําด้วยไม้กระดาน 3 แผ่น ท้ายสูงกว่าหัวเรือ ใช้แจวหรือพาย
สำรับ ของหรือคนที่รวมกันเข้าได้ไม่ผิดหมู่ผิดพวกเป็นชุดเป็น วงเป็นต้น เช่น ไพ่ 2 สำรับ พระพิธีธรรม 1 สำรับ มี 4 รูป นักสวดคฤหัสถ์ 1 สำรับ มี 4 คน,
สำหรวด ฝาเรือนเครื่องสับแบบหนึ่ง มีโครงไม้คร่าวยืนเป็นหลัก ซึ่งวางห่างกัน 1 ฝ่ามือ ระหว่างไม้คร่าวแต่ละช่อง ขัดไม้ แผ่นเล็ก ๆ ที่เรียกว่า ไม้เซ็น หรือ ลูกเซ็น วางตามขวาง ด้านหลังไม้เซ็นกรุใบจากอ่อนเป็นต้นแล้วขัดด้วยเข็มไม้ไผ่ อีกชั้นหนึ่ง เรียกว่า ฝาสําหรวด
สินเทา พื้นที่ว่างซึ่งกันไว้เป็นพื้นหลังของรูปภาพเพื่อแบ่งภาพ เป็นตอน ๆ โดยเขียนล้อมด้วยเส้นแผลงหรือด้วยเส้นฮ่อ เป็นต้น มักเขียนในงานจิตรกรรมฝาผนัง.
สี ชื่อเครื่องสําหรับหมุนบดข้าวเปลือกเพื่อทำให้เปลือก แตกเป็นข้าวกล้อง. ก. ถู เช่น ช้างเอาตัวสีกับต้นไม้ ลม พัดแรงทำให้ลำไม้ไผ่สีกัน, ครู่, ครูด, รู่, ชัก เช่น สีซอ; ทำ ให้เปลือกออกด้วยเครื่องอย่างสีข้าว.
สีลม ชื่อเครื่องสีข้าวซึ่งใช้กําลังลมหมุนใบพัดให้หมุนเครื่องจักร.
สีสุก ชื่อไผ่ 2 ชนิดในสกุล Bambusa วงศ์ Gramineae แขนงมี หนาม คือ ชนิด B. blumeana Schult
สุ่มไก่ เครื่องสานตาห่าง ๆ มีลักษณะครึ่งทรงกลมหรือโอควํ่า ข้างบนมีช่องกลม ๆ ใช้สําหรับครอบขังไก่เป็นต้น เรียกว่า สุ่มไก่
สูบ เครื่องสําหรับดูดของเหลวเช่นนํ้าให้เคลื่อนจากระดับ เดิมไปสู่ระดับใหม่, เครื่องสำหรับดูดหรืออัดลม ก. ดูด เข้าไป เช่น สูบบุหรี่ สูบกัญชา, ดูดออกมา เช่น สูบส้วม สูบน้ำออกจากนา
เสวียน ของใช้ชนิดหนึ่ง ทำด้วยหญ้า หวาย หรือฟาง เป็นต้น ถักหรือมัดเป็นวงกลม มักมีหู 2 ข้างสำหรับหิ้ว ใช้ รองก้นหม้อที่หุงต้มด้วยเตาฟืนหรือเตาถ่าน, ของใช้ชนิดหนึ่ง ทำด้วยไม้ไผ่สานเป็นแผ่นกลม สำหรับรองหรือรับสิ่งต่าง ๆ มีพ้อมข้าวเป็นต้น
เสียม ชื่อเครื่องมือสําหรับขุด แซะ และพรวนดินชนิดหนึ่งทำด้วย เหล็ก มีด้ามยาว
เสื่อสาด เครื่องสานชนิดหนึ่งสําหรับปูนั่งและนอน
เสื่อไม้ไผ่ เครื่องปูลาดสำหรับรองนอน ทำด้วยไม้ไผ่ สับเป็นริ้วละเอียด อย่างฟาก คลี่ออกและต่อกันเป็นผืน
เสื่อลำแพน เครื่องจักสานชนิดหนึ่ง มักสานด้วยตอกไม้ไผ่เส้นใหญ่ๆ แบนๆ ซึ่งเรียกว่า ตอกปื้น ที่ทําด้วยหวายหรือเส้นใยเปลือก ไม้ก็มี ใช้ปูหรือทําเป็นแผงใช้กั้นหรือกรุเป็นฝาเรือนเป็นต้น
แส้ ชื่ออุปกรณ์สำหรับปัดยุงหรือแมลง ทำด้วยขนหางม้า หรือ ทางจากที่ทุบปลายข้างหนึ่งเป็นเส้น เป็นต้น ลักษณะเป็นพู่ ยาว มีด้าม
หนังตะลุง การมหรสพอย่างหนึ่ง ใช้หนังสลักเป็นรูปภาพขนาดเล็ก คีบด้วยไม้ตับอันเดียว เชิดภายในโรงให้แสงไฟส่องผ่านตัวหนังสร้างเงา ให้ปรากฏบนจอผ้าขาวหน้าโรง ใช้ปี่ กลอง ‘และฆ้องคู่บรรเลงประกอบ ผู้เชิดเป็นผู้พากย์.
หน้าจั่ว เครื่องบนแห่งเรือนที่ปิดด้านสกัดหลังคา สําหรับกันลมและ แดดฝน มีรูปเป็นสามเหลี่ยม, จั่ว ก็ว่า; (คณิต) เรียกรูปสามเหลี่ยมที่มีด้าน คู่หนึ่งยาวเท่ากันว่า สามเหลี่ยมหน้าจั่ว.
หน้าบัน จั่ว (ใช้แก่ปราสาท โบสถ์ วิหาร เป็นต้น)
หมวก เครื่องสวมศีรษะมีรูปต่างๆ เพื่อเป็นเครื่องประดับหรือกันแดด กันฝนเป็นต้น.
หมวกสาน เครื่องสวมศีรษะมีรูปต่าง ที่สานด้วยไม้ไผ่
หม้อ ภาชนะประเภทหนึ่ง มีรูปทรงต่างๆ สำหรับใส่ของหรือใช้งานบางอย่าง, เรียกตามสิ่งที่ใช้ทำก็มี เช่น หม้อดิน หม้อทองเหลือง หม้ออะลูมิเนียม, เรียก ตามสิ่งที่บรรจุก็มี เช่น หม้อข้าว หม้อน้ำมนตร์, เรียกตามวัตถุประสงค์ที่ใช้ สอยก็มี เช่น หม้อตุ๋น หม้อนึ่ง
หม้อกระดี่ หม้อแกงขนาดใหญ่ปากกว้าง ทำด้วยดิน มีขีดเป็นรอย โดยรอบ
หมอน อุปกรณ์ที่ใช้ในการนวดเช่นนมไม้; เรียกตัวปลิงที่ใช้กอก เลือดว่า หมอน้อย
หย่อง สิ่งสําหรับใส่หมากพลู มีรูปเหมือนถาดขอบสูง มีตีน โดยมากทําด้วย ทองเหลือง; เครื่องรองรับไม้แม่กำพองประจำช่องหน้าต่าง; ส่วนประกอบ ของเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย เช่น ซอสามสาย ซอด้วง ขิม ไวโอลิน ใช้รองรับสายเพื่อรับแรงสั่นสะเทือนจากสายลงสู่เครื่องดนตรีให้เสียง กังวานขึ้นส่วนประกอบของจะเข้ ใช้หนุนสายเพื่อมิให้แตะนมจะเข้. ว. อาการที่นั่งชันเข่าทั้ง 2 ข้างโดยก้นไม่ถึงพื้น เรียกว่า นั่งหย่อง หรือ นั่งยองๆ
หรดาล หรดาลที่มีลักษณะเป็นผลึกแท่งเข็มสั้น เป็นเม็ด เป็นแผ่นอัดแน่น หรือเป็นผง อ่อนนุ่ม มีค่าความถ่วงจําเพาะ 3.49 สีเหลือง เป็นมัน มีสูตรเคมี As2S3 ใช้ประโยชน์เป็นสารให้สีเหลือง ใช้เขียนลายรดนํ้า สมุดดํา เป็นต้น. หรุ่น
หลอดด้าย หลอด,หลอดด้าย,หลอดไม้รวก,รอกม้วน,เครื่องม้วน,จานม้วน,เครื่องปั่นด้าย,ปริมาณด้ายหรือเทปหรือฟิล์มต่อม้วน,อาการหมุน
หลักแจว หลักไม้เนื้อแข็งที่มักปักไว้ริมกราบท้ายเรือสําหรับยึดแจว; ชื่อทรงผมแบบหนึ่ง.
หลัว ภาชนะสานรูปคล้ายทรงกระบอก ก้นสอบปากผาย มีหูที่ขอบ ปาก 2 ข้าง
หลาว ไม้ที่เสี้ยมแหลม เป็นอาวุธสําหรับแทง, โดยปริยายเรียกสิ่งอื่นที่มี ลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น หลาวทองเหลือง. ว. เรียกอาการที่พุ่งตัว พร้อมกับเหยียดแขนทั้ง 2 ไปข้างหน้าว่า พุ่งหลาว.
หวด ภาชนะอย่างหนึ่งสําหรับนึ่งของ ทำด้วยดินเผา ไม้ไผ่สาน เป็นต้น
หอ เรือนหรืออาคารซึ่งใช้เฉพาะกิจการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น หอพระ หอนั่ง หอสมุด; เรือนซึ่งปลูกสําหรับให้คู่บ่าวสาวที่แต่งงานกันแล้วอยู่ เรียกว่า เรือนหอ
หัวโขน รูปหัวยักษ์ ลิง ที่ใช้สวมเวลาเล่นโขนหรือละคร, โดยปริยาย หมายถึงตำแหน่งหน้าที่หรือยศถาบรรดาศักดิ์ที่ดำรงอยู่ มักใช้ในสำนวน เช่น สวมหัวโขน ถอดหัวโขน.
หัวเตาไฟ มุมทั้ง 4 ของแม่เตาไฟ
หางยาม เครื่องมือทําไร่ทํานาชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยคันชัก หางยาม ผาล หัวหมู ใช้ควายหรือวัวเป็นต้นลากไปเพื่อกลับดิน, คันไถ ก็ว่า. ก. เอาไถเทียมควายหรือวัวเป็นต้นลากไปเพื่อกลับดิน; เคลื่อนไปไถลไป เช่น นั่งไม้ลื่นไถลงมา; (ปาก) ขอร้องแกมบังคับ, รีดไถ
หีบ ภาชนะใส่สิ่งของ รูปทรงสี่เหลี่ยมเป็นต้น มีฝา
หีบชัก หีบไม้รูปทรงสี่เหลี่ยม ภายในมีที่ตั้งโถอุจจาระ ด้านหลัง เปิดได้เพื่อชักโถออกทําความสะอาด ตอนบนเป็นที่นั่ง มีร่องเจาะตรงกับ ปากโถตอนล่าง
หีบพระมาลัย หีบใส่คัมภีร์พระมาลัยซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าคัมภีร์ใบลาน
แห ชื่อเครื่องจับปลาชนิดหนึ่ง ถักเป็นตาข่าย ใช้ทอดแผ่ลงในนํ้าแล้วค่อย ๆ ดึงขึ้นมา
อกไก่ ไม้เครื่องบนที่พาดเบื้องบนเป็นสันหลังคาเหนือใบดั้ง
อกเลา ไม้ที่เป็นสันทาบอยู่ที่บานประตูหรือหน้าต่างแบบโบราณ เพื่อบังช่องที่บานประตูหรือหน้าต่างทั้ง 2 บานประกับกัน
อวย เรียกหม้อดินหรือหม้อเคลือบที่มีด้ามหรือหูสําหรับจับหรือ หิ้วว่า หม้ออวย.
อับ เครื่องสําหรับคัดด้ายหรือไหม มีรูปคล้ายระวิง สําหรับพันด้าย หรือไหมเป็นตอนๆ ตามลําดับเส้นใหญ่และเล็ก
อ่าง ภาชนะสำหรับใส่น้ำเป็นต้น มักมีลักษณะกลม ปากผายก้นตื้น, โดยปริยายใช้เรียกสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น อ่างอาบนํ้า
อิฐ ดินเผามีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าใช้ก่อตึกและ กําแพงเป็นต้น; โดยปริยายใช้เรียกสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึง เช่นนั้น เช่น อิฐบล็อก. ว. สีอย่างสีอิฐใหม่ เรียกว่า สีอิฐ
อีจู้ เครื่องดักปลาไหลชนิดหนึ่ง สานด้วยไม้ไผ่ รูปคล้ายหม้อ คอสูง มีงาแซงอยู่ริมก้น ห้อยเหยื่อไว้ภายใน, กระจู้ หรือ จู้
อีแปะ ชื่อเรือต่อชนิดหนึ่ง ท้องแบน เสริมกราบ รูปคล้ายเรือสําปั้น แต่หัวเรือสั้นกว่า
อีเลิ้ง ภาชนะเผาประเภทโอ่ง อ่าง ขนาดใหญ่
อีหง เครื่องจักรสานสำหรับช้อนปลาในอ่างน้ำตื้นหรือแอ่งเล็ก
อุบ เครื่องเขินของภาคเหนือใช้สำหรับใส่อาหารถวายพระคล้ายกับตะลุ่มภาคกลาง
แอก ไม้ที่ขวางบนคอกวัวหรือคอกควายสำหรับลากเกวียน
แอบ ภาชนะสานด้วยไม้ไผ่ ขนาดเล็กใช้สำหรับนึ่งข้าว
โอ ภาชนะสำหรับใส่ของ ทำด้วยไม้กลึงหรือสานด้วยไม้ไผ่ เคลือบด้วยรักและเขียนด้วยลวดลายด้วยวิธีต่างๆ
โอ่ง ภาชนะเผาเคลือบขนาดใหญ่ รูปร่างกลมหรือเหลี่ยมปากแคบ
ฮอ เครื่องมือสำหรับฝนขมิ้นหรือว่านหอมสำหรับท่าตัว
ฮอกควาย เครื่องขวานคอควายอย่างกระดิ่ง
ฮาง ไม้แก่นที่ขูดเป็นร่องตรงกลางสำหรับใส่อาหารสัตว์
ฮ้าน สิ่งปลุกสร้างที่ยกพื้นขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์ต่าง
ฮูป สิ่งที่เขียนหรือวาดเป็นรูป
เฮือน สิ่งที่ปลูกสร้างเป็นที่อยู่อาศัย
โฮงกระบอก ที่สำหรับวางโต๊ะเพื่อจุดไฟแสงสว่าง
ใส่ความเห็น
Comments 0