เครื่องปั้นดินเผา
ภาชนะชุดแรกๆของมนุษย์นั้นคือการนำ ดิน มาขึ้นรูปเป็นภาชนะต่างๆแล้วนำไปตากแห้งคุณสมบัติของดิน โดยเฉพาะดินเหนียวสามารถอุ้มน้ำได้ดี และเมื่อผสมเข้ากับน้ำแล้วจะทำให้ดินมีความเหนียวและสามารถที่จะปั้นหรือขึ้นรูปสามมิติ โดยไม่ต้องเพิ่มเติมวัสดุอื่นอีก คำว่า”เครื่องปั้นดินเผา”เป็นคำนามที่มีความหมายที่สื่อให้เข้าใจได้ในตัวของมันเอง (เอาดินมาปั้นแล้วก็เผา)
เมื่อนำดินที่ขึ้นรูปแล้วมาให้ความร้อน ดินซึ่งประกอบด้วยผลึกในตระกูลของ “alumino silicate” จะมีการเปลี่ยนแปลงสัณฐานทางเคมี สารประกอบอัลคาไลน์ (alkaline) เป็นสารชนิดหนึ่งที่สามารถทำปฏิกิริยาเคมีกับผลึกดินที่อุณหภูมิสูง พลังงานความร้อนนี้สามารถขับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของผลึกดิน โดยจะทำให้เกิดสารประกอบลักษณะเป็น”แก้ว” สารประกอบนี้จะทำหน้าที่เป็นตัวประสานอนุภาคดินที่เหลือ ซึ่งทำหน้าที่เป็นโครงสร้าง เข้าด้วยกัน ทำให้เนื้อวัสดุหลังการเผา (อย่างน้อยประมาณ 800 องศาเซลเซียส แล้วแต่คุณสมบัติทางเคมี) มีความคงทนแข็งแรงขึ้น สามารถคงรูปไว้ใช้เป็นภาชนะสังเคราะห์ชนิดแรกของมนุษย์
ดินเหนียวเป็นดินชนิดหนึ่งที่ใช้ทำเครื่องปั้นดินเผาพื้นเมือง ทั้งชนิดเคลือบและชนิดไม่เคลือบ เช่น
กระถาง หม้อดิน โอ่ง อิฐ กระเบื้อง เป็นต้น เมื่อเผาดินเหนียวแร่บางชนิดในดินจะแปรสภาพ และยึดดินไว้ด้วยกัน สีของดินเผาก็จะเปลี่ยนแปลงไปด้วย ดินเหนียวที่ใช้ทำเครื่องปั้นดินเผาจากแหล่งต่างๆ ให้สีไม่เหมือนกัน เช่น ดินเหนียวเกาลิน จากลำปาง จะให้เครื่องปั้นดินเผาเป็นสีขาว ดินเหนียวจากราชบุรีให้
สีแดง ดินเหนียวขากด่านเกวียนให้สีเหลือง น้ำตาลอมม่วง หรือน้ำเงิน
1. การสร้างเตาเผาเครื่องปั้นดินเผาแบบต่างๆ มีหลักสำคัญที่ต้องคำนึงถึงอยู่ 4 ประการ ได้แก่
1.1 ให้ได้อุณหภูมิในกำหนดเวลาและรักษาอุณหภูมิให้อยู่คงที่ได้ตามที่ต้องการ
1.2 ให้อุณหภูมิภายในส่วนต่างๆ ของเตาเผาได้ตามที่ต้องการ และเร่งความร้อนได้ตามส่วนต่างๆของเตาเผา
1.3 สามารถควบคุมการเปลี่ยนแปลงปฏิกิริยาทางเคมีของชิ้นงานในเตาเผา
1.4 เผาให้ได้อุณหภูมิสูงโดยใช้เชื้องเพลิงน้อย
2. คำว่า “เซรามิกส์” หมายถึงนำสารอนินทรีย์ อโลหะ สารประกอบ จำพวกซิลิเกตออกไซด์ คาร์ไบด์
ไนไตรต์ ซัลไฟด์ และบอไรด์ ซึ่งผ่านขั้นตอนการผลิตหรือการหลอมรวมตัวกันที่อุณหภูมิสูง
3. อุตสาหกรรมเซรามิกส์ หมายถึง อุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นจากการนำสารอนินทรีย์พวกดิน หิน แร่ มาใช้เป็นวัตถุดิบ ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยการใช้ความร้อน ผลิตภัณฑ์ของอุตสาหกรรมเซรามิกส์มีหลายประเภท ได้แก่
3.1 เครื่องปั้นดินผาและเครื่องเคลือบดินเผา
3.2 วัตถุทนไฟ เช่นอิฐทนไฟ
3.3 แก้ว
3.4 ซีเมนต์
3.5 โลหะเคลือบ เช่นเครื่องสุขภัณฑ์ต่างๆ
3.6 ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ขัดหรือตัด เช่นกระดารทราย หินขัด
3.7 ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในงานอิเล็กโทรนิกส์ เช่น ฉนวนไฟฟ้าชนิดต่างๆ
3.8 ผลิตภัณฑ์เซรามิกส์ชนิดพิเศษ เช่นกระดูกเทียม
4. น้ำยาเคลือบ เป็นสารประกอบของซิลิเกตเหมือนกับเนื้อดินปั้น น้ำยาเคลือบชนิดที่ใส่ตะกั่วมีส่วนผสม
สำคัญคือ ตะกั่วแดงหรือตะกั่วขาว ตะกั่วที่ใส่ลงไปมีประโยชน์ช่วยทำให้น้ำยาเคลือบมีจุดหลอมเหลวต่ำ
หลอมละลายได้ง่าย เนื้อเคลือบเป็นมันวาว เรียบ สวยงาม ไม่เปลืองค่าแรงงาน ส่วนมากใช้เคลือบ
ผลิตภัณฑ์พวกแจกัน ตุ๊กตา ที่เขี่ยบุหรี่ หรือพวกกระเบื้องต่างๆ ไม่เหมาะที่จะใช้เคลือบภาชนะที่ใส่ของสำหรับบริโภค เพราะตะกั่วในเนื้อเคลือบของภาชนะ ซึ่งอาจมีโอกาสปนเปื้อนในอาหาร ในขณะที่นำไปใส่อาหารที่เปรี้ยวจัด หรือเค็มจัดเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภคได้
5. การที่ร่างกายได้รับสารที่มีตะกั่วเป็นส่วนประกอบสะสมไว้เป็นเวลานาน ทีละเล็กละน้อย อาจทำให้ เกิด
โรคตะกั่วเป็นพิษขึ้น ซึ่งตะกั่วจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีในร่างกาย ทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงขาดฮีโมโกลบิน เซลล์สมองถูกทำลาย อาจจะก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง ตาบอด เป็นอัมพาตหรือมีความเสื่อมทางจิตหรืออาจตายได้ นอกจากนี้ตะกั่วยังทำให้เกิดผลร้ายต่อการตั้งครรภ์ การเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ตลอดจนเซลล์สืบพันธุ์ทั้งของเพศชายและเพศหญิง
แหล่งวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเครื่องปั้นดินเผา
แหล่งวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเครื่องปั้นดินเผา มีอยู่หลายแห่ง เช่น
ดินขาว – ลำปาง สุโขทัย สวรรคโลก ชลบุรี
ดินเหนียว – ปทุมธานี นนทบุรี ราชบุรี นครราชสีมา
ควอรตซ์ – เชียงใหม่ กำแพงเพชร ลพบุรี ปราจีนบุรี จันทบุรี ระยอง
เฟลด์สปาร์ – เชียงใหม่ ชลบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครศรีธรรมราช
ใส่ความเห็น
Comments 0