สาเหตุที่ทำให้ของที่ระลึกมีรูปแบบที่แตกต่างกัน
นับตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน รูปแบบของที่ระลึกมีความแตกต่างกันออกไปอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรูป ลักษณะของบริโภค เครื่องใช้ไม้สอย ตลอดจนเครื่องประดับ หรือวัตถุทางศิลปะก็ตาม สาเหตุที่ทำให้รูปแบบของสิ่งเหล่านี้แตกต่างกัน ก็เนื่องมาจากเงื่อนไขอิทธิพลของ
1. ความแตกต่างอันเนื่องมาจากวัสดุที่ใช้ทำ (Material) โดยสภาพทางภูมิศาสตร์และสภาพทางดินฟ้าอากาศ อันแตกต่างกันของแต่ละท้องถิ่น ทำให้ทรัพยากรและวัสดุในแต่ละที่ไม่เหมือนกัน บางแห่งเป็นป่าเขา บางแห่งเป็นที่ราบลุ่มประกอบด้วยแม่น้ำ ลำคลอง หนอง บึง ฯลฯ จุดเริ่มต้นของรูปแบบ ก็คือมนุษย์นำเอาวัสดุธรรมชาติมาแปรรูปและประกอบกันเข้า กลายเป็นสิ่งใหม่แทนชของธรรมชาติและกลายเป้นสัญลักษณ์หรือตัวแทนธรรมชาติที่ใช้ในชีวิตประจำวันของมนุษย์ เช่น งานแกะสลักไม้ของภาคเหนือ งานเครื่องปั้นดินเผาแถบภาคกลาง งานทอผ้าทางภาคอีสาน งานแกะสลักหนังทางภาคใต้ ฯลฯ การที่วัสดุในแต่ละท้องถิ่นไม่เหมือนกัน ย่อมทำให้สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมานั้นแตกต่างกัน เช่น ในท้องถิ่นที่เป็นป่าดงลาน ก็ย่อมได้ลานมาทำผลิตภัณฑ์ใบลาน ในท้องถิ่นที่ปลูกข้าว ก็ได้ฟางมาเป็นเชื้อเพลิงในการทำเครื่องปั้นดินเผา จากไร่จากสวนก็ได้ ใบตองมาสร้างสรรค์ศิลปะประดิษฐ์ จากป่าไผ่ก็ได้ผลิตภัณฑ์เครื่องจักสาน เป็นต้น และนั้นคือผลจากทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นที่มนุษย์ผู้ทำอาศัยอยู่ต่างกัน
ส่วนความแตกต่างกันของรูปแบบอีกประการ แม้ในท้องถิ่นเดียวกัน ก็มักจะเอาวัสดุในการทำที่มีชนิดเดียวกันมาใช้เป็นวัตถุดิบในการสร้างสรรค์ แต่รูปแบบของสิ่งที่สร้างก็อาจแตกต่างกันออกไป เช่น ในท้องถิ่นที่มีต้นไผ่ บ้างนำมาสานเป็นหมวก บ้างทำตะกร้า บ้างทำพัด บ้างทำชะลอม ฯลฯ สุดแท้แต่เงื่อนไขประกอบ คือ ประโยชน์และหน้าที่ในการนำเอาไปใช้เป็นสำคัญ นอกจากนี้การที่มนุษย์รู้จักการเอาวัสดุมาใช้ในแต่ละช่วงเวลาแห่งพัฒนาการ ก็เป็นสาเหตุทำให้รูปแบบของสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นนั้นแตกต่างกันออกไปได้อีก เช่น มนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ รู้จักนำเอาวัสดุที่มีอยู่ตามธรรมชาต เช่น หิน เปลือกหอย หนังสัตว์ กระดูก ไม้ ใบไม้ ฯลฯ มาใช้ประโยชน์ต่อการดำรงชีพ โดยส่วนใหญ่ได้คงรูปแบบธรรมชาติเดิมของวัสดุนั้นไว้ ต่อมาจึงมีการประดิษฐ์ดัดแปลง แต่งต่อเพิ่มเติม ลดรูปแบบของวัสดุธรรมชาติให้เหมาะสม มีประสิทธิภาพในการใช้สอยและมีความสวยงามยิ่งขึ้น ครั้นเมื่อมนุษย์สามารถคิดค้นวัสดุอย่างใหม่ขึ้น นอกเหนือจากวัสดุทางธรรมชาติ รูปแบบของสิ่งประดิษฐ์สร้างสรรค์ก็เปลี่ยนแปลงไปอีก โดยถือเอาความสอดคล้องกับคุณสมบัติทางกายภาพของวัสดุและคุณประโยชน์ ในการด้านการนำประโยชน์มาใช้เป็นสำคัญในระยะแรก ระยะต่อมาจึงเห็นคุณค่าทางด้านความงามมาประกอบร่วมเมื่อความต้องการทางด้านการใช้สอยลดลง ดังนั้นจึงอาจสรุปได้ว่า ตราบเท่าที่มนุษย์ยังสามารถคิดค้นวัสดุอย่างใหม่ขึ้นไว้ใช้ รูปแบบของสิ่งที่มนุษย์จะพึงสร้าง และมอบให้แก่กันก็จะเปลี่ยนแปลงไปตราบนานเท่านาน
2. ความแตกต่างอันเนื่องมาจากเทคนิคการทำ (Technique) สิ่งใดก็ตามที่ได้ถูกสร้างสรรค์โดยมนุษย์ย่อมมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลง ทั้งในด้านรูปแบบและวิธีสร้าง ทั้งนี้เนื่องจากมนุษย์มีพัฒนาการทางด้านสติปัญญาและมีวิวัฒนาการทางด้านการผลิตอันเป้นผลมาจากการเรียนรู้ทักษะและความชำนาญ การพัฒนาทางด้านสติปัญญาทำให้รู้จักสร้างสรรค์ดัดแปลง แต่งเติม เพิ่ม ลดรูปแบบให้สอดคล้องกับความต้องการทางด้านการใช้สอยและความงาม ส่วนวิวัฒนาการทางด้านการผลิตอันเป้นผลมาจากการเรียนรู้ทักษะและความชำนาญ ทำให้รู้จักดัดแปลงสร้างสรรค์เทคนิควิธีในการผลิต ตลอดจนคิดค้นหาเครื่องมือเครื่องใช้ ที่มีประสิทธิภาพ มาช่วยในการผลิต ซึ่งทั้งเทคนิคในการสร้างและเครื่องมือช่วยในการสร้างสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ส่งผลให้รูปแบบสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นแตกต่างกัน เพราะขีดจำกัดของความสามารถในการผลิตแต่ละเทคนิคการทำนั้นต่างกัน โดยเฉพาะในปัจจุบัน จากเทคโนโลยีและความก้าวหน้าในเรื่องเครื่องจักรกล ยิ่งเป็นสิ่งที่เอื้ออำนวยในการสร้างผลิตสิ่งของ เครี่องใช้ เครื่องประดับ ฯลฯ ให้มีรูปลักษณะที่ผิดแผก แตกต่างกันออกไป ตามการออกแบบสร่างสรรค์ของมนุษย์ ได้เกินกำหนด และบางครั้งก็เกินความคาดหมาย จากเทคนิคการทำอันมากมายนี้ ทำให้เราสามารถที่จะเลือกสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากกรรมวิธีที่ต่างกันได้ ซึ่งอาจเป็นงานฝีมือ ที่ผลิตสร้างด้วยมือและเครื่องมือที่จำเพาะอันเป้นงานที่แสดงออกถึงความสามารถ ทักษะและความชำนาญของตัวผุ้สร้าง หรืออาจเลือกสิ่งที่สร้างขึ้นโดยอาศัยเทคนิคในการผลิตระหว่างงานฝีมือกับเครื่องจักรกล ซึ่งแต่ละอย่างก็มีคุณค่าที่แตกต่างกันไป ตามต้นกำเนิด หากเป็นงานฝีมือ คุณค่าของงานก็อาจอยู่ที่ความเพียรพยายาม ความน่าทึ่งในฝีมือและสมองของผุ้ทำ หากเป็นงานผสมร่วมระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักรกล คุณค่าของงานอาจอยู่ที่ความสามารถ ในการผลิตเป็นจำนวนมาก โดยใช้เวลาอันสั้น อีกทั้งความประณีตทนทานอาจมากขึ้น ส่วนผลงานที่ผลิตสร้างด้วยเครื่องจักรกลโดยตรง คุณค่าที่ปรากฏอาจเป็นไปในด้านเศรษฐกิจ คือมีราคาซื้อขายถูกลงจำนวนมากขึ้น รูปแบบการผลิตอาจอยู่ในขีดขั้นเกินความสามารถของมนุษย์ เป็นต้น
3. ความแตกต่างอันเนื่องมาจากค่านิยมหรือประเพณีนิยมในท้องถิ่น (Tradition fashion) แต่ละท้องถิ่นมีความแตกต่างกันด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ สภาพดินฟ้า อากาศ และทรัพยากร และวัสดุในแต่ละท้องถิ่นไม่เหมือนกัน ทำให้รูปแบบและรูปร่างของสิ่งที่สร้างขึ้นต่างกันออกไปและมีการสืบทอดวัฒนธรรมทางรูปแบบ โดยการสร้างสมในทางปฏิบัติกันจากชั่วคนหนึ่งมาอีกชั่วคนหนึ่งเป็นลำดับมา และจากการศึกษารูปร่างของเครื่องใช้ ผลผลิต ผลิตภัณฑ์บางชนิด ทราบได้ว่าเทคนิคในการทำนั้นอาจคล้ายคลึงกัน แต่ทางด้านรูปร่าง รูปแบบ หรือลวดลายย่อมมีความแตกต่างกันออกไปตามความนิยมของท้องที่และแต่ละท้องถิ่น
ใส่ความเห็น
Comments 0