ส้มปลาชะโด
ส้มปลาชะโด จังหวัดนครพนม
ประวัติความเป็นมา
บ้านไชยบุรี มีภูมิประเทศติดกับแม่น้ำ โดยติดผ่านกับแม่น้ำสงคราม ทำให้ประชาชนทำอาชีพประมงเป็นส่วนมาก โดยเฉพาะการจับปลาชะโด ซึ่งมีมากแถบลุ่มแม่น้ำสงครามมาทำอาหารชนิดต่าง ๆ เช่น ทำปลาร้า ปลาแห้ง และส้มปลา(แบบสับ) เดิมก็ทำรับประทานเฉพาะในครัวเรือนและแจกจ่ายญาติ พี่น้อง การคมนาคม สะดวกลูกหลานก็นำไปฝากเพื่อน ๆ ต่างจังหวัด จนทำให้คนทั่วไปรู้จักส้มปลาชะโดซึ่งมีรสชาติอร่อย และต้นตำรับอยู่ที่บ้านไชยบุรีเพียงที่เดียวในประเทศไทย จนปัจจุบัน ส้มปลาชะโดเป็นอาชีพหลักของคนในบ้านไชยบุรีเป็นส่วนใหญ่ ได้รับการอนุเคราะห์จากหน่วยงานต่าง ๆ มาช่วยเหลือในด้านการผลิตให้ถูกสุขลักษณะ ให้ความรู้ในการแปรรูปอาหารจากปลาและให้การสนับสนุนในการจัดหาที่จำหน่ายและ โชว์ผลิตภัณฑ์ส่งเสริมด้านเงินทุนต่าง ๆ ให้ด้วย
เอกลักษณ์/จุดเด่นผลิตภัณฑ์
เอกลักษณ์ของส้มปลาชะโดบ้านไชยบุรี คือ รสชาติอร่อย ส้มปลาเนื้อแน่นสีขาว ห่อด้วยใบตองสีเขียว สามารถเก็บไว้ได้นานโดยรสชาติไม่เปลี่ยน หรือเมื่อนำออกมารับประทานโดยการนึ่ง ย่าง ทอด รสชาติ ก็จะไม่เค็ม อร่อยกลมกล่อม มีการห่อ/การบรรจุภัณฑ์ที่มีโลโก้รูปปลาชะโด ที่สวยงามสามารถใช้เป็นของฝากได้
วัตถุดิบและส่วนประกอบ
– ปลาชะโด 1 กิโลกรัม
– ปลานวลจันทร์ 1 กิโลกรัม
– ปลากราย 1 กิโลกรัม
– กระเทียม ½ กิโลกรัม
– น้ำตาล 100 กรัม
– เกลือ 100 กรัม
– ข้าวเหนียวนึ่ง 100 กรัม
ขั้นตอนการผลิต
1. นำเนื้อปลาทั้ง 3 ชนิด มารวมกัน
2. เนื้อปลาที่บดแล้วใส่เครื่องนวด นวดผสมกระเทียม น้ำตาล เกลือ และข้าวเหนียว นาน 3 นาที
3. นำเนื้อปลาที่นวดแล้วปั้นเป็นก้อน ห่อด้วยใบตองให้แน่น ประมาณ 2 วัน รับประทานได้
เทคนิค/เคล็ดลับในการผลิต
การทำส้มปลาชะโด จะเน้นที่ขั้นตอนการผลิตที่สะอาด ทุกขั้นตอน ส่วนผสมที่ลงตัว ต้องไม่ใส่เกลือมาก ถ้าใส่เกลือมากจะทำให้เค็มไม่อร่อย การรับประทานส้มปลาชะโด สามารถนำมาบริโภคได้หลายรูปแบบตามความชอบของแต่ละคน จะรับประทานเป็นกับแกล้มแบบดิบ ทอด นึ่ง ปิ้ง/ย่าง ก็ได้ โดยเฉพาะการปิ้ง/ย่าง ถ้าจะให้อร่อย เวลาปิ้งหรือย่าง ไม่ควรเอาใบตองออกหมด ควรปิ้ง/ย่างไฟทั้งใบตอง จะทำให้ส้มปลามีกลิ่นหอม รถชาดอร่อย รับประทานกับพริกสด กระเทียมสด จะยิ่งเพิ่มรสชาติมากยิ่งขึ้น
ใส่ความเห็น
Comments 0